xs
xsm
sm
md
lg

เขมรได้คณะรัฐมนตรีชุดปรับเล็ก “ฮุนเซน” คุยคุณภาพคับแก้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา (ซ้าย) ลงชื่อเข้าร่วมการประชุมลงมติรับรอบการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ที่รัฐสภา ในกรุงพนมเปญ วันที่ 4 เม.ย. -- Reuters/Samrang Pring.</font></b>

รอยเตอร์ - รัฐสภากัมพูชา รับรองคณะรัฐมนตรีปรับโฉมใหม่ในวันนี้ (4) ในการเปลี่ยนตัวผู้นำที่สูงอายุในคณะรัฐมนตรี ในความพยายามของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ที่เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งปี 2561 ที่น่าจะเป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่หนักที่สุดของผู้นำเขมร

ระหว่างอยู่ในอำนาจนาน 3 ทศวรรษ ฮุนเซน แวดล้อมไปด้วยบรรดาผู้จงรักภักดี และการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีก็เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ฮุนเซน กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้เป็นความจำเป็นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล

ผู้นำกัมพูชา ระบุว่า เวลานี้ประเทศมีคณะรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีประสบการณ์ และสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

“ปี 2559 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับรัฐบาลในการตรวจสอบ และประเมินผลการทำงานในช่วงครึ่งแรกของการทำหน้าที่ และออกมาตรการจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน” ฮุนเซน กล่าวต่อรัฐสภา

ข้อเสนอปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา 70 เสียง จากทั้งหมด 107 เสียง โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการปรับย้ายตำแหน่งรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีเพียง 2 คน ที่พ้นจากเก้าอี้ในคณะ

ด้านพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่สนใจความเคลื่อนไหวนี้ และมองว่าการปรับเปลี่ยนโยกย้ายคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่น่าจะก่อให้เกิดการปฏิรูปใดๆ

ส่วนหนึ่งของการโยกย้ายตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี คือ การแต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์ขึ้นเป็นรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยา แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร แทนที่ อุ๊ค ราบุน ที่โยกไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาชนบท

สุ่น จันทล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ได้รับการแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม แทนที่ เจิม อิว เต็ก ที่ย้ายไปทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารโทรคมนาคม ส่วนพันธมิตรใกล้ชิดของฮุนเซน อย่าง ฮอร์ นัมฮอง ที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ นาน18 ปี ถูกแทนที่โดย ปรัก สุคน ที่เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารโทรคมนาคม

แต่ ฮอร์ นัมฮอง ยังคงอยู่ในคณะรัฐมนตรีในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

ช่องว่างระหว่างพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซน และพรรคกู้ชาติกัมพูชาของสม รังสี เริ่มแคบลงตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2556 ที่จุดชนวนวิกฤตทางสภานานนับปี และคาดว่าพรรคฝ่ายค้านจะยิ่งเพิ่มความท้าทายมากขึ้นในการเลือกตั้งปี 2561.
กำลังโหลดความคิดเห็น