เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่พม่า เผยวันนี้ (24) ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย จากเหตุดินถล่มในพื้นที่ทำเหมืองหยกที่ห่างไกลทางภาคเหนือของประเทศ และคาดว่ามีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก ในเหตุรุนแรงครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมนี้
ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นค้นหาร่างผู้เสียชีวิต หลังกองดินสูงถล่มลงมาท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนวันจันทร์ (23) ในเมืองผากัน รัฐกะฉิ่น
“เราพบร่างผู้เสียชีวิต 5 ศพ เมื่อคืนวาน (23) และพบเพิ่มอีก 5 ศพ ในเช้าวันนี้ (24)” เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงเนปีดอ ระบุ
แต่ปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยต้องระงับลงชั่วคราวเนื่องจากฝนตกลงมาอีก ซึ่งอาจทำให้ดินถล่มอีกระลอก
เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 15 คน และสูญหายอีกราว 30 คน
นีลา มี้น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมืองผากัน ยืนยันยอดผู้เสียชีวิต และระบุว่า มีคนราว 50 คน กำลังค้นหาหยกขณะที่เกิดดินถล่ม
“เรากำลังตรวจบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดดินถล่มเพื่อดูว่ามีใครสูญหายไปบ้าง” นีลา มี้น กล่าว
พื้นที่แห่งนี้ประสบเหตุดินถล่มหลายระลอกในช่วงปีที่ผ่านมา และเหตุดินถล่มครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 100 คน และยังมีอุบัติเหตุขนาดเล็กเกิดขึ้นอีกหลายสิบครั้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งดินถล่มที่มีผู้เสียชีวิตไป 13 คน เมื่อช่วงต้นเดือน
เหยื่อดินถล่มมักเป็นคนงานย้ายถิ่นที่เข้าค้นหาเศษหยกที่อาจตกค้างหลงเหลือจากบริษัทเหมืองที่ดำเนินการในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
ชาวบ้านในพื้นที่ และอดีตเอ็นจีโอรายหนึ่งกล่าวต่อสื่อว่า มีคนหลายร้อยคนค้นหาหยกในหลุมลึกที่บริษัทเหมืองปล่อยทิ้งไว้ในช่วงฤดูฝน ที่เป็นช่วงเวลาที่บริษัทใหญ่พักการดำเนินการ
“เราคิดว่ามีประมาณ 200 คน กำลังค้นหาหยกอยู่ในพื้นที่ตอนที่เกิดดินถล่มเมื่อคืนนี้ อาจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก” ชาวบ้านในพื้นที่กล่าว และว่า ฝนที่ตกอย่างหนัก และถนนที่ย่ำแย่อาจทำให้การช่วยเหลือกู้ภัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก
พม่า เป็นแหล่งหยกคุณภาพดีที่สุดของโลก หินสีเขียวใสที่มีมูลค่าสูงในประเทศจีน แต่บริษัทเหมืองหยกหลายรายมีความเชื่อมโยงต่อนายทหารระดับสูงในยุครัฐบาลเผด็จการทหารที่คาดว่ากวาดรายได้ไปเป็นจำนวนมหาศาล ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนว่าถูกกีดกันออกจากขุมทรัพย์เหล่านี้
ในรายงานฉบับเดือน ต.ค. ของ Global Witness ที่เป็นหน่วยงานเฝ้าระวังการทุจริตคอร์รัปชัน ประเมินว่า การผลิตหยกของพม่าในปี 2557 มีมูลค่าถึง 31,000 ล้านดอลลาร์ แต่กำไรส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือกองทัพ และนายทหารในอดีตรัฐบาลเผด็จการทหาร แทนที่จะเป็นงบประมาณรัฐ
Global Witness ระบุว่า อุตสาหกรรมหยกอาจเป็นการปล้นทรัพยากรธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่.