เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อาวุโสพม่า 2 คน ถูกปลดออกจากตำแหน่งในสัปดาห์นี้ หลังการสืบสวนเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันในอุตสาหกรรมเหมืองหยกมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของประเทศ
ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรและการค้าของพม่า ถูกปลดออกจากตำแหน่ง และถูกกล่าวหาว่านำเข้าเครื่องจักรที่ใช้ขุดหาหยกในรัฐกะฉิ่นอย่างผิดกฎหมาย ตามการเปิดเผยของผู้อำนวยสำนักงานประธานาธิบดี
นับเป็นการยอมรับของทางการที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการทุจริตคอร์รัปชันในอุตสาหกรรมหยก ซึ่งตอบสนองความต้องการอย่างมหาศาลของเพื่อนบ้านอย่างจีน
การคัดค้านของประชาชนต่อการทำเหมืองได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เมื่อรถขุดขนาดยักษ์เข้าขุดหาหยกทั่วพื้นที่เขตทำเหมืองของเมืองผากัน รัฐกะฉิ่น ที่เกิดเหตุดินถล่มจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง
“เจ้าหน้าที่ 2 คนนี้เกี่ยวข้องในการนำเข้าเครื่องจักรสำหรับขุดหาหยกในเมืองผากัน และสำนักงานประธานาธิบดีได้ดำเนินการต่อพวกเขา” ซอ เต ผู้อำนวยการสำนักงานประธานาธิบดี กล่าว
ซอ เต ระบุว่า ยังมีเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมาย ที่ทำงานให้แก่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงเหมืองแร่ โดยหน่วยงานจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินมาตรการอะไรต่อคนเหล่านั้น
การสอบสวนของรัฐบาลในอุตสาหกรรมหยกเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค. หลังเกิดเหตุดินถล่มหลายระลอกในเมืองผากัน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และสร้างความวิตกต่อประชาชนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ไม่โปร่งใส และอื้อฉาวนี้
นักเคลื่อนไหวท้องถิ่นกล่าวหาว่า บริษัททำเหมืองได้เร่งสกัดหาหยกก่อนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจากรัฐบาลชุดปัจจุบันไปสู่รัฐบาลที่นำโดยพรรคของอองซานซูจี
Global Witness องค์กรตรวจสอบปัญหาการคอร์รัปชัน ระบุว่า การทำเหมืองหยกในพม่าอาจเป็นการปล้นทรัพยากรธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
เมื่อปีก่อน Global Witness คาดการณ์ว่า มูลค่าของหยกที่ผลิตได้ในปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 31,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่ายอดจำหน่ายในงานแสดงหยกพม่าในปีเดียวกัน ที่มีมูลค่า 3,400 ล้านดอลลาร์
หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ รายงานในเดือน ก.พ. ว่า พม่าทำรายได้จากการส่งออกหยกใน 9 เดือน จนถึงเดือน ธ.ค.2558 ไปทั้งสิ้น 567 ล้านดอลลาร์ ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์.