MGRออนไลน์ - กองทัพบกไทยได้เซ็นสัญญาซื้อรถถังแบบ VT4 ที่ผลิตในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นจำนวนทั้งหมด 28 คัน รวมมูลค่าซื้อขายราว 150 ล้านดอลลาร์ นิตยสารข่าวกลาโหมที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุด และเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ รายงานเรื่องนี้โดยอ้างการยืนยันของทางการไทย
นี่คือ รถถังรุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นเวอร์ชันสำหรับส่งออกของ MBT3000 รถถังหลักที่ประจำการในกองทัพประชาชนปัจจุบัน และเป็นรุ่นอัปเกรดของ MBT2000 กับ VT1A ที่จีนผลิตออกมาก่อนหน้านี้ ฝ่ายไทยตัดสินใจซื้อ หลังจากพิจารณาเปรียบเทียบกับ T-90 รัสเซีย และ T-84 โอปล็อต-M จากยูเครน ที่กองทัพบกเซ็นสัญญาซื้อ จำนวน 49 คัน ในเดือน ก.ย.2554 มูลค่าราว 7,200 ล้านบาท (240 ล้านดอลลาร์) ในการจัดหาล็อตแรก
กองทัพบกได้รับงบประมาณอีก 8,900 ล้านบาท สำหรับการจัดหารถถังหลักในล็อตที่ 2 โดยเป็นงบผูกพันเป็นเวลา 3 ปี และในขณะที่การผลิต Oplot-M ในยูเครน มีปัญหา เกิดความล่าช้าในการส่งมอบ หลายฝ่ายเชื่อว่า ไทยกำลังพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ T-90 รัสเซีย ที่มีราคาไล่เลี่ยกัน และคุณภาพผ่านการพิสูจน์ในสงครามให้เห็น
ตามรายงานของเจนส์ กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมภาคเหนือของจีน หรือ NORINCO (North Industries Corp) จะส่งมอบ VT4 ล็อตแรกที่ยังไม่ทราบจำนวนให้แก่ไทยในปลายปี 2559 นี้ ขณะที่สองฝ่ายได้ให้คำมั่นจะจัดทำสัญญาซื้อขายฉบับสมบูรณ์ระหว่างกันภายใน 2 ปี ซึ่งไทยอาจจะซื้อเป็นจำนวนถึง 138 คัน
รายงานของเจนส์ ยังให้รายละเอียดต่อไปว่า สัญญาการซื้อขายจะครอบคลุมการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้วย และหน่วยงานที่จะรับการถ่ายทอด ก็คือ สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (Defence Technology Institute) ในสังกัดกระทรวงกลาโหม ที่ในปัจจุบันมีความร่วมมือกับจีนในการพัฒนาจรวด DTI2 สำหรับกองทัพไทย
ไทยจะส่งเจ้าหน้าที่เทคนิค กับพลรถถังซึ่งจะเป็นผู้ใช้งานไปฝึกอบรวมในจีน และเชื่อกันว่าผู้เชี่ยวชาญของ DTI จะได้รับการฝึกอบรมในจีนเช่นเดียวกัน เจนส์ กล่าว
.
.
TAF เว็บไซต์ข่าวกลาโหม ที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ได้รายงานเรื่องนี้เป็นแห่งแรกสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในกองทัพ ที่ระบุด้วยว่า หากการใช้งานเป็นที่พอใจของไทยก็อาจจะมีการเซ็นสัญญาซื้อถึง 150 คัน
กองทัพบกไทยกำลังจัดหารถถังหลักยุคใหม่ราว 200 คัน เพื่อใช้แทน M41 “วอล์กเกอร์ บุลด็อก” (Walker Bullldog) ที่ใช้มานานตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม และเริ่มจากการซื้อรถถังที่ผลิตจากยูเครน
ถ้าหากตัวเลขเป็นไปตามรายงานของ TAF และเจนส์ ภายใต้แผนการจัดหาที่ดำเนินอยู่ใขณะนี้ กองทัพรถถังรุ่นใหม่ของกองทัพบกไทย ก็จะประกอบได้ด้วย รถถังยูเครน จำนวน 49 คัน (พร้อมรถพี่เลี้ยง/ยานซ่อมบำรุง) กับรถถังจีนอีก 166 คัน (พร้อมรถพี่เลี้ยง/ยานซ่อมบำรุง) รวมเป็นทั้งสิ้น 215 คัน
รายงานของเจนส์ ออกมาเพียงข้ามวัน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ไทยมีความสนใจทั้งเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 และรถถัง T90 ของรัสเซีย ซึ่งจะมีการหากันเรื่องนี้ระหว่างไปเยือน เพื่อร่วมประชุมสุดยอดรัสเซีย-อาเซียน ที่เมืองโซชิ (Sochi) เมืองท่องเที่ยวตากอากาศริมฝั่งทะเลดำรัสเซียสัปดาห์นี้
ยังไม่ทราบรายละเอียดในขณะนี้ ว่า กองทัพบกจะใช้เงินงบประมาณส่วนใดสำหรับการจัดซื้อรถถังรัสเซีย ถ้าหากการเจรจาซื้อขายสามารถบรรลุได้ แต่ นรม.ของไทยแสดงความหวังว่า รัสเซียจะซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากไทยเป็นการแลกเปลี่ยนด้วย.