เอเอฟพี - พล.อ. อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า ให้คำมั่นในวันนี้ (27) ว่า จะรักษาให้ชาติอยู่บนเส้นทางสู่ประชาธิปไตย ไม่กี่วันก่อนรัฐบาลพลเรือนของอองซานซูจีจะเข้าบริหารประเทศหลังอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพนานหลายทศวรรษ
พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย แสดงความเห็นดังกล่าวในพิธีสวนสนามแสดงแสนยานุภาพทางทหารประจำปีของกองทัพพม่า
“ผมต้องการที่จะแจ้งว่ากองทัพจะร่วมมือเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของชาติ และประชาชน แต่อุปสรรคสำคัญ 2 สิ่งต่อประชาธิปไตยคือ ความล้มเหลวที่จะปฏิบัติตามหลักนิติธรรม และกฎระเบียบ และการมีอยู่ของกลุ่มก่อความไม่สงบติดอาวุธ สิ่งเหล่านี้อาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางประชาธิปไตย หากอุปสรรค 2 สิ่งนี้ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องเหมาะสม ประเทศจะก้าวหน้าบนเส้นทางสู่ประชาธิปไตย” พล.อ. มิน ออง หล่าย กล่าวสุนทรพจน์ต่อกองกำลังทหาร ในพิธีสวนสนามเนื่องในวันกองทัพ ที่กรุงเนปีดอ
พม่า ประสบต่อการเปลี่ยนแปลงทางเมืองนับตั้งแต่ปี 2554 หลุดพ้นจากการโดดเดี่ยวประเทศภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารกลายเป็นชาติที่มีชีวิตชีวามากขึ้น และการเปิดกว้างทางการเมืองนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในเดือน พ.ย. ที่ทำให้ได้เห็นพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ของอองซานซูจี กวาดชัยชนะ
หลังการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่ยาวนาน รัฐบาลของซูจี จะเข้าบริหารประเทศแทนรัฐบาลที่กองทัพให้การสนับสนุนซึ่งกำลังจะหมดวาระลงในวันพุธ ยุติการปกครองของทหารทั้งทางตรง และทางอ้อมนานกว่า 5 ทศวรรษ
ซูจี ที่ถูกห้ามจากการเป็นประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญที่ทหารร่างขึ้น จะทำหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ แต่ได้ให้คำมั่นว่าจะบริหารประเทศผ่านถิ่น จอ ที่เป็นประธานาธิบดีตัวแทน
ความสามารถของซูจี ที่จะร่วมมือ และเผชิญหน้าต่อกองทัพจะเป็นบททดสอบสำคัญของรัฐบาลซูจี ที่เผชิญต่อความท้าทายมากมายหลายอย่าง รวมทั้งความยากจน การทุจริตคอร์รัปชัน และความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากกลุ่มกบฏชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์
กองทัพยังคงมีอำนาจทางการเมืองอย่างแข็งแกร่งตามรัฐธรรมนูญที่สงวนที่นั่ง 1 ใน 4 ของรัฐสภาให้แก่นายทหารที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และให้อำนาจผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพแต่งตั้งรัฐมนตรีใน 3 กระทรวงสำคัญ คือ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกิจการชายแดน
ในพิธีสวนสนามวันนี้ (27) เป็นสิ่งที่ช่วยเตือนความทรงจำถึงความมั่งคั่งของกองทัพ ด้วยกองทัพนำอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่รถถัง รถหุ้มเกราะ จรวด ไปจนถึงเฮลิคอปเตอร์ ร่วมแสดงในพิธีสวนสนาม
ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหาร การใช้จ่ายในภาคส่วนการศึกษาและสาธารณสุขของประเทศเป็นเพียงเศษเสี้ยวของงบประมาณทางทหาร ซึ่งรัฐบาลพลเรือนชุดใหม่จะต้องเผชิญต่อสิ่งที่ตกทอดมาจากรุ่นก่อนนี้ อย่างไรก็ตาม อองซานซูจี ไม่ได้เข้าร่วมในงานพิธีสวนสนามแต่อย่างใด.
.
71 ปี กองทัพพม่าAgence France-Presse/Reuters
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.