รอยเตอร์ - พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้เสนอชื่อเพื่อนสนิทของอองซานซูจี เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศ สิ้นสุดการรอคอยนาน 4 เดือน สำหรับตัวบุคคลที่คาดว่าจะเป็นประธานาธิบดีที่ปกครองประเทศในนามของซูจี
พรรค NLD เสนอชื่อ ถิ่น จอ (Htin Kyaw) ที่เข้าร่วมพรรคได้เพียงแค่ 2 เดือน เป็นผู้สมัครจากสภาผู้แทนราษฎร เขาเป็นผู้ดูแลบริหารมูลนิธิที่ซูจีก่อตั้งขึ้น และใกล้ชิดกับซูจีมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1990
ซูจี และพรรค NLD ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือน พ.ย. แต่ซูจีถูกขัดขวางจากการทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีภายใต้รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเผด็จการทหารร่างขึ้น แต่ซูจี ได้กล่าวว่า จะปกครองประเทศผ่านตัวแทน แต่ทั้งซูจี และแกนนำพรรค NLD ได้ปิดชื่อบุลคลที่จะถูกเสนอไว้เป็นความลับ แม้กระทั่งจากสมาชิกรัฐสภาระดับสูงก็ตาม จนกระทั่งวันนี้ (10)
ในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกในวันนี้ (10) ก่อนที่รายชื่อจะถูกเปิดเผย ซูจี ได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของเธออดทนอดกลั้น
“ฉันต้องการที่จะร้องขอทุกคนให้สนับสนุน และยืนเคียงข้างพรรค NLD ด้วยปัญญา และมองการณ์ไกล พรรค NLD มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความคาดหวังของประชาชน และจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด” ซูจี กล่าว
ด้วยพรรค NLD ครองเสียงข้างมากในสภา ทำให้ผู้สมัครที่พรรคสนับสนุนเป็นประธานาธิบดีนั้นมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะครองตำแหน่งสูงสุดของประเทศ
พรรค NLD ยังเสนอชื่อ เฮนรี่ วันเทียว สมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ชินจากรัฐชิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับอินเดีย และบังกลาเทศ เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากสภาสูง
เป็นที่คาดกันว่า พรรค NLD จะเสนอชื่อผู้สมัครจากชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์จากสภาสูงที่จะกลายเป็นรองประธานาธิบดี ซึ่งสอดคล้องต่อเป้าหมายของซูจี ในการตั้งรัฐบาลเพื่อความปรองดองของชาติ
ภายใต้ระบบการเลือกประธานาธิบดีทางอ้อมของพม่า สภาล่าง สภาสูง และกลุ่มทหารในสภา จะเสนอชื่อผู้สมัครฝ่ายละ 1 คน และด้วยพรรค NLD ครองเสียงส่วนใหญ่ในทั้งสองสภา ทำให้พรรคควบคุมการเสนอชื่อได้ถึง 2 ชื่อ
สื่อท้องถิ่นได้รายงานชื่อ เต๊ต ฉ่วย อดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือที่ก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อปีก่อนเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งที่เกาะโกโก ว่า เป็นหนึ่งในผู้ที่คาดว่าน่าจะถูกเสนอชื่อจากฝ่ายกองทัพ แต่กลุ่มนายทหารที่เป็นสมาชิกรัฐสภาไม่ได้มาปรากฏตัวที่อาคารรัฐสภาในเช้าวันนี้ (10)
ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 3 คน จะถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการรัฐสภา หลังจากนั้น ทั้งสองสภาจะประชุมร่วมกันเพื่อลงคะแนนเลือกประธานาธิบดี ซึ่งผู้ชนะการเลือกตั้งจะครองตำแหน่งประธานาธิบดี ส่วนผู้ได้รับการเสนอชื่ออีก 2 คน จะเป็นรองประธานาธิบดี
ประธานาธิบดี จะเป็นผู้เลือกคณะรัฐมนตรีที่จะเข้าทำหน้าที่แทนรัฐบาลของประธานาธิบดีเต็งเส่งที่จะหมดวาระลงในวันที่ 1 เม.ย. ยกเว้นเพียงรัฐมนตรีของกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกิจการชายแดน ที่จะถูกแต่งตั้งโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ยังมีความสับสนในหมู่สมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะจัดการเลือกประธานาธิบดี
ผู้อำนวยการจากรัฐสภาเปิดเผยต่อรอยเตอร์เมื่อวันพุธ (9) ว่า การเลือกตั้งจะยังไม่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็จนกว่าวันจันทร์ (14).
