รอยเตอร์ - เพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังการพบหารือการเปลี่ยนแปลงอำนาจระหว่างพล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย และอองซานซูจี รอบที่ 3 ผู้บัญชาการกองทัพพม่าได้แสดงความเห็นคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างรวดเร็วต่อรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ที่ห้ามซูจี จากการเป็นประธานาธิบดี แม้ว่าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปีก่อน เป็นหัวใจสำคัญในข้อขัดแย้งระหว่างพรรคของซูจี และกองทัพ ที่ซูจี ได้ให้คำมั่นว่าจะนำประเทศเหนือประธานาธิบดี
พล.อ. มิน ออง หล่าย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลทหารร่างขึ้นควรได้รับการแก้ไขในเวลาที่เหมาะสมตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ขณะที่สมาชิกอาวุโสของพรรค NLD และผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า มาตราที่กำหนดห้ามซูจี จากการทำหน้าที่ประธานาธิบดีสามารถระงับได้ชั่วคราวในส่วนหนึ่งของการจัดการแบ่งอำนาจระหว่างกองทัพ และพรรค NLD
“พม่าก้าวเข้าสู่กระบวนการการเป็นประชาธิปไตยได้เพียง 5 ปีเท่านั้น บทบัญญัติที่จำเป็นควรถูกแก้ไขในเวลาที่เหมาะสม สอดคล้องต่อบทที่ 12 ของรัฐธรรมนูญ” หนังสือพิมพ์เมียวดี รายงานอ้างคำกล่าวของ พล.อ.มิน ออง หล่าย ที่กล่าวในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ทหารเมื่อวันจันทร์
การหารือระหว่างสองฝ่ายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กินเวลานาน มีขึ้นท่ามกลางรายงานที่ระบุว่า ผู้บัญชาการกองทัพพม่าได้ขยายเวลาการอยู่ในตำแหน่งออกไปอีก 5 ปี
กองทัพก้าวลงจากการปกครองพม่าโดยตรงในปี 2554 หลังอยู่ในอำนาจเกือบ 5 ทศวรรษ และภายใต้การนำของรัฐบาลกึ่งพลเรือนที่เข้าแทนที่ กองทัพยังคงมีอำนาจทางการมือง และซูจี จำเป็นที่จะต้องสานความสัมพันธ์กับกองกำลังทหาร เพื่อที่จะสามารถปกครองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่นั่ง 1 ใน 4 ของรัฐสภาถูกสงวนให้แก่สมาชิกรัฐสภาที่เป็นนายทหารซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และกองทัพยังควบคุม 3 กระทรวงสำคัญ คือ กระทรวงกลาโหม กระทรวงกิจการชายแดน และกระทรวงมหาดไทย
ยาน เมียว เต่ง นักวิเคราะห์การเมือง กล่าวว่า คำกล่าวของผู้บัญชาการกองทัพเป็นคำตอบต่อความคาดหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างรวดเร็วที่อาจเกิดขึ้นต่อรัฐธรรมนูญ
“นั่นเป็นข้อความที่ชัดเจนที่ชี้ให้เห็นจุดยืนของกองทัพเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้เราเข้าใจได้ว่า การระงับ หรือการแก้ไขบทบัญญัติใดๆ ในรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถคาดหวังได้ในตอนนี้” ยาน เมียว เต่ง กล่าว
การเปลี่ยนแปลงของพม่าใช้เวลายาวนาน พรรค NLD ครองที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ก.พ. แต่การเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะยังไม่มีการประกาศจนกว่าวันที่ 17 มี.ค. และรัฐบาลชุดใหม่มีกำหนดเริ่มวาระตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.