รอยเตอร์ - อองซานซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ได้พบหารือเกี่ยวกับการโอนถ่ายอำนาจกับ พล.อ.มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่า ก่อนที่รัฐสภาซึ่งครอบครองโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรค NLD จะเปิดประชุมเป็นครั้งแรกในสัปดาห์หน้า
นับเป็นการพบหารือครั้งที่ 2 ของทั้งคู่ ตั้งแต่พรรคของซูจี ชนะที่นั่งเกือบ 80 ของที่นั่งในสภาที่เปิดให้ลงแข่งขัน ในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อเดือน พ.ย. ชัยชนะที่ดูเหมือนจะทำให้พม่ามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กองทัพเป็นสถาบันที่มีอำนาจมากที่สุดของพม่า และใครก็ตามที่ต้องการครอบครองอำนาจจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากกองทัพ
รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเผด็จการทหารร่างขึ้นในปี 2551 สงวนที่นั่ง 1 ใน 4 ของสภาให้แก่กองทัพ สิทธิในการยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และตำแหน่งรัฐมนตรีใน 3 กระทรวงด้านความมั่นคงของประเทศ
“ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นอย่างเป็นกันเองเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่าน และช่วงเวลาหลังการเลือกตั้งที่สงบสุข และมีเสถียรภาพ กิจการเกี่ยวกับรัฐสภา และการตั้งรัฐบาลชุดใหม่” คำแถลงบนหน้าเฟซบุ๊กของ พล.อ.มิน ออง หล่าย ระบุในเช้าวันนี้ (26) ซึ่งการพบหารือของทั้งสองคนเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (25)
การพบหารือดำเนินอยู่นานราว 2 ชั่วโมง โดยมีผู้ช่วยของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมในการหารือด้วย
รัฐธรรมนูญขวางซูจี จากการเป็นประธานาธิบดีเพราะลูกชายของซูจีเป็นชาวอังกฤษ แต่หัวหน้าพรรค NLD ให้คำมั่นว่า จะแต่งตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ แต่เธอจะเป็นผู้นำประเทศ โดยอยู่เหนือประธานาธิบดี
หนึ่งในสิ่งสำคัญลำดับต้นของพรรค และเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งระหว่างพรรค NLD และกองทัพ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะอนุญาตให้ซูจี ทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งผู้นำพรรค NLD ได้ให้คำมั่นว่าจะไม่ต่อต้านทหาร และผลักดันการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงโดยทันที
ซูจี ทำให้โลกต้องประหลาดใจนับตั้งแต่การเลือกตั้งเสร็จสิ้น ด้วยการเข้าถึงอดีตศัตรูเก่าของเธออย่างรวดเร็ว รวมทั้ง ตาน ฉ่วย อดีตผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหารที่ปกครองประเทศมานาน 49 ปี จนกระทั่งเปิดทางให้แก่รัฐบาลกึ่งพลเรือนในปี 2554
นักวิเคราะห์ได้มุ่งความสนใจไปยังผู้เข้าร่วมการประชุมรายหนึ่ง คือ ติน เมียว วิน แพทย์ประจำตัวของซูจี
ติน เมียว วิน มักไม่เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของพรรค NLD แต่ในช่วงหลายเดือนมานี้เขาได้กลายเป็นบุคคลที่ถูกคาดการณ์ว่า อาจจะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรค เนื่องจากความใกล้ชิดกับซูจี
นายแพทย์ผู้นี้เป็นผู้ภักดีต่อพรรค NLD และเป็นอดีตนักโทษการเมือง เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมซูจี เมื่อครั้งที่ซูจีถูกควบคุมตัวภายในบ้านพัก.
