รอยเตอร์/เอพี - รัฐสภาพม่าจะเริ่มต้นเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศในวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งใกล้เส้นตายวันสุดท้ายที่ 1 เม.ย. ด้วยว่าการหารือระหว่างพรรคของอองซานซูจี และกองทัพมีแนวโน้มจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
แต่สมาชิกรัฐสภาที่เป็นนายทหารออกมาปฏิเสธว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจี และกองทัพกำลังหารือถึงบทบัญญัติที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอนุญาตให้อองซานซูจี เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ
สมาชิกอาวุโสของพรรค NLD ได้กล่าวต่อสื่อว่า พวกเขาจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน ก.พ. แต่รัฐสภาได้ตัดสินใจในวันนี้ (8) ว่า กระบวนการการเลือกตั้งจะเริ่มขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนรัฐบาลใหม่มีกำหนดเริ่มต้นวาระการทำงานในวันที่ 1 เม.ย.
“ผมขอประกาศว่า การพบหารือของคณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดีทั้ง 3 ฝ่ายจะมีขึ้นในวันที่ 17 มี.ค.” มาน วิน ข่าย ประธานรัฐสภา กล่าวในรัฐสภา
พรรค NLD กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ได้ที่นั่งราว 80% ของรัฐสภา หรือมากพอที่จะผลักดันประธานาธิบดีของตัวเอง
การเริ่มต้นกระบวนการถ่ายโอนอำนาจที่กินเวลายาวนานเกิดขึ้นระหว่างที่ทหาร และ NLD ยังอยู่ในช่วงการเจรจาต่อรอง ส่วนใหญ่น่าจะเกี่ยวกับรูปโฉมของรัฐบาลชุดใหม่ และการถ่ายโอนอำนาจ แต่รายละเอียดของการเจรจายังคงไม่เปิดเผย
“ไม่มีการหารือระหว่างกองทัพ และ NLD เกี่ยวกับมาตรา 59(f)” พลจัตวา ทิน ซาน นาย โฆษกคณะทหารในรัฐสภา กล่าวต่อรอยเตอร์วันนี้ (8)
มาตราดังกล่าวระบุห้ามบุคคลใดก็ตามที่สมรส หรือมีทายาทเป็นชาวต่างชาติเป็นประธานาธิบดี ซึ่งมาตรานี้ถูกมองว่ามีเป้าหมายที่ซูจี และจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากทหาร ทิน ซาน นาย ระบุ
“มาตราดังกล่าวไม่สามารถระงับได้ มันขัดต่อรัฐธรรมนูญ มันเคยถูกยกขึ้นหารือแล้วในรัฐสภา ดังนั้น มันไม่ควรถูกเสนอ และอภิปรายอีก มาตราดังกล่าวถูกระบุลงในรัฐธรรมนูญอย่างตั้งใจ เพื่อคุ้มครองประชาชนของเราจากการรุกรานของต่างชาติ” พลจัตวา ทิน ซาน นาย กล่าว
ภายใต้รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเผด็จการทหารร่างขึ้น ระบุให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกประธานาธิบดี โดยที่สภาสูง และสภาล่างเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของแต่ละสภา ขณะที่คณะสมาชิกรัฐสภาที่เป็นนายทหารเสนออีกหนึ่งชื่อ เมื่อครบ 3 ชื่อ รัฐสภาจะเลือกประธานาธิบดี เพื่อดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 5 ปี ส่วนผู้สมัครอีก 2 คน จะทำหน้าที่รองประธานาธิบดี
ในอีกด้านหนึ่ง สถานีโทรทัศน์แห่งชาติพม่า และสกายเน็ทได้ประกาศในค่ำวันอาทิตย์ (7) ว่า การเจรจาเกี่ยวกับการระงับมาตรา 59(f) ได้ข้อสรุปในเชิงบวก ตามการรายงานของเอพี
“ผมคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี การเจรจาจะเป็นไปในเชิงบวกสำหรับอองซานซูจี หัวหน้าพรรคของเราที่จะเป็นประธานาธิบดี” กอ ต่วย สมาชิกอาวุโสของ NLD กล่าวต่อเอพี
แต่ยาน เมียว เต่ง นักวิเคราะห์การเมือง เตือนว่า ยังเร็วไปที่จะยืนยันว่าซูจีจะเป็นหนึ่งในรายชื่อของผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และการระงับ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นก็ต้องใช้เวลา จึงยังไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ด้วยการอาศัยเพียงการประกาศสั้นๆ ทางโทรทัศน์.