รอยเตอร์ - หลังกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในเดือน พ.ย. อองซานซูจี ได้อำลาสมาชิกรัฐสภาที่หมดวาระหน้าที่ลง และเตรียมพร้อมที่จะตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960
รัฐสภาที่ครอบครองโดยสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่ชนะราว 80% ของที่นั่งที่เปิดเลือกตั้งเมื่อปีก่อน จะประชุมกันเป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (1)
ฝ่ายของซูจี จะเริ่มตั้งรัฐบาล หลังพยายามต่อสู้มาอย่างยาวนานต่อรัฐบาลเผด็จการทหารที่ปกครองพม่ามานานถึง 49 ปี ที่ในปี 2554 รัฐบาลเผด็จการทหารได้เปิดทางให้แก่รัฐบาลกึ่งพลเรือนของประธานาธิบดีเต็งเส่ง
ในการเฉลิมฉลองการเปลี่ยนแปลง และการสิ้นสุดรัฐสภาสมัยแรก สมาชิกรัฐสภาทั้งที่หมดวาระ และกำลังจะเข้ามาทำหน้าที่จากทุกพรรคการเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมเต้นรำ รับประทานอาหาร และถ่ายภาพ ในพิธีที่จัดขึ้นในกรุงเนปิดอ
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่มาอยู่ที่นี่ ฉันจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมสิทธิสตรี และสร้างโอกาสให้แก่ผู้หญิงในประเทศ” มี้น มี้น โซ สมาชิกรัฐสภาที่ได้รับเลือกใหม่จากพรรค NLD กล่าว
แม้ว่านักการเมืองจะมองในแง่ดี แต่อีกหลายเดือนข้างหน้าดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด
รัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเผด็จการทหารร่างไว้ ซึ่งขัดขวางซูจี จากการทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดี และยังให้กองทัพควบคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อความมั่นคง และสงวนที่นั่งหนึ่งใน 4 ของรัฐสภา จะบังคับให้พรรค NLD ต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจาต่อรองกับกองทัพ
ผู้นำในพรรค NLD ได้รับรองกองทัพว่าจะมุ่นเน้นความสนใจไปที่อนาคต และจะวางอดีตไว้เบื้องหลัง พวกเขายังกล่าวว่า จะไม่รีบเร่งผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
“หากพวกเขาตกลงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเร็วขึ้น ก็จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของพวกเขาต่อประเทศ และความเห็นอกเห็นใจต่อประชาชน แต่นโยบายของ NLD ต่อกองทัพในตอนนี้คือ ไม่สร้างแรงกดดันใดๆ ต่อพวกเขา” ติน อู หนึ่งในแกนนำพรรค NLD กล่าว
สมาชิกรัฐสภาชุดใหม่จะเลือกประธานสภาในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น จะเป็นการเลือกประธานาธิบดี
ซูจี ได้กล่าวเอาไว้ว่า เธอจะอยู่เหนือประธานาธิบดี และนำประเทศ จากคำกล่าวนั้นทำให้เริ่มมีการคาดการณ์กันว่า ใครที่จะถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สภาสูง สภาล่าง และฝ่ายทหารในสภาจะเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝ่ายละ 1 ชื่อ หลังจากนั้น ทั้งสองสภาจะร่วมกันลงคะแนนเสียง ซึ่งผู้ชนะจะกลายเป็นประธานาธิบดี และตั้งรัฐบาล และครองอำนาจในสิ้นเดือน มี.ค.
“กองทัพ และ NLD ควรทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และโปร่งใสเพื่อลดความแตกแยก และส่งเสริมความไว้วางใจ” ติน ถ่วย สมาชิกรัฐสภาจากพรรครัฐบาลที่หมดวาระลง กล่าว.
.
.
.
.
.
.
