เอเอฟพี - หนึ่งใน 4 ผู้ลี้ภัยที่ถูกส่งมายังกัมพูชาจากค่ายควบคุมตัวของออสเตรเลียที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงตั้งถิ่นฐานใหม่ได้เดินทางกลับบ้านเกิดแล้ว รัฐมนตรีของออสเตรเลียเผยวันนี้ (16) ในขณะที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงโครงการมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 29 ล้านดอลลาร์)
ออสเตรเลียพยายามที่จะสกัดขัดขวางผู้แสวงหาที่พักพิงที่เดินทางโดยเรือ ทั้งหันเรือกลับและส่งคนเหล่านนี้ที่เดินทางมาถึงไปยังศูนย์กักกันบนเกาะปาปัวนิวกินีและนาอูรูในแปซิฟิกโดยไม่มีโอกาสที่จะตั้งถิ่นฐานใหม่บนแผ่นดินใหญ่แม้พบว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ลี้ภัยก็ตาม
ออสเตรเลียทำข้อตกลงกับรัฐบาลกัมพูชาที่จะรับผู้ลี้ภัยแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีข้างหน้า นับจนถึงปัจจุบัน มีผู้ลี้ภัยเพียง 4 คนจากนาอูรู เป็นชาวอิหร่าน 3 คน และชาวโรฮิงญาจากพม่า 1 คน ที่อาสาย้ายไปยังกัมพูชา
"จาก 4 คนแรกที่เดินทางไปกัมพูชา หนึ่งในนั้นได้ตัดสินใจที่จะเดินทางกลับ แต่ยังมีอีก 2 คน ที่อาสาจะเดินทางจากนาอูรูมายังกัมพูชา" ดัตตัน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ ABC
เจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า ผู้ลี้ภัยอายุ 25 ปี จากพม่า ต้องการที่จะเดินทางกลับบ้านเพราะคิดถึงบ้าน
บิล ชอร์ทเทน ผู้นำพรรคแรงงานกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อตกลงกับกัมพูชานั้นล้มเหลว และมีความจำเป็นที่ต้องมีโครงการตั้งถิ่นฐานใหม่ระดับภูมิภาคที่แท้จริง
การเดินทางกลับพม่าของชายชาวโรฮิงญาเกิดขึ้นหลังการประชุมของดัตตันกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาในกรุงแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย เมื่อวันพุธ (14) ที่นโยบายตรวจคนเข้าเมืองถูกยกขึ้นหารือ
"การประชุมวานนี้ได้เสริมความมุ่งมั่นของชาติเราที่จะตั้งถิ่นฐานผู้ลี้ภัยจากนาอูรูให้ประสบความสำเร็จ และจัดการกับผู้ลักลอบและเรื่องการตรวจคนเข้าเมืองอื่นๆ" ดัตตัน กล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่ง
ออสเตรเลียได้กล่าวปกป้องนโยบายตรวจคนเข้าเมืองว่านโยบายดังกล่าวช่วยหยุดผู้แสวงหาที่พักพิงจากการเสียชีวิตกลางทะเล และ ตามรายงานตัวเลขตรวจคนเข้าเมืองจนถึงวันที่ 30 ก.ย. มีผู้แสวงหาที่พักพิงราว 1,565 คน เป็นผู้ชาย 1,359 คน ผู้หญิง 114 คน และเด็ก 92 คน ถูกควบคุมตัวบนเกาะมานัสและนาอูรู.
