รอยเตอร์ - ทางการอินโดนีเซียช่วยชีวิตผู้อพยพ 65 คนที่พยายามไปยังออสเตรเลีย หลังจากที่เรือของพวกเขาเกยติดกับแนวปะการังแห่งหนึ่ง ตำรวจแดนอิเหนา รายงานในวันนี้ (2 มิ.ย.)
นักการเมืองฝ่ายค้านของออสเตรเลียรายหนึ่งระบุว่า เรือดังกล่าวเกยติดหลังจากที่ถูกกองทัพเรือแดนจิงโจ้ลากกลับออกไป ตอกย้ำให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ผู้อพยพเผชิญจากนโยบายอันเข้มงวดของออสเตรเลีย
ผู้อพยพที่แออัดในเรือพยายามที่จะข้ามทะแลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างแอฟริกาและยุโรป รวมถึงทะเลอันดามันในเอเชียในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ซึ่งถือเป็นประเด็นปัญหาระดับโลกที่หลายๆ ชาติกำลังพยายามจัดการรับมือกันอยู่
ออสเตรเลียเลือกใช้หนึ่งในวิธีการที่เข้มงวดที่สุดในการต่อต้านผู้อพยพที่พยายามขึ้นฝั่งของพวกเขาโดยทางเรือ ด้วยการส่งกลับเรืออพยพไปยังที่ๆ ปลอดภัย และกักขังคนอื่นๆ อีกหลายพันคนในศูนย์กักกันในต่างแดน
เรือลำดังกล่าวที่เกยติดนอกชายฝั่งจังหวัดนุสา เตงการา ตะวันออกเมื่อวันอาทิตย์ (7) กำลังพยายามจะข้ามไปยังเกาะปะการังแอชมอร์ (Ashmore Reef) ที่ออสเตรเลียควบคุมอยู่ บูดิ ซานโตโซ หัวหน้าของหน่วยปฏิบัติงานเฉพาะกิจด้านผู้แสวงหาที่พักพิงของสำนักงานตำรวจอินโดนีเซีย กล่าวในข้อความ
เรือลำดังกล่าวมีชาวศรีลังกา 54 คน, ชาวบังกลาเทศ 10 คน และชาวพม่า 1 คน ในจำนวนนี้ 3 คนเป็นเด็ก
จำนวนของผู้อพยพที่ไปยังออสเตรเลียถือว่าไม่มากมายนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่มันเป็นประเด็นทางการเมืองที่ทำให้เกิดการแบ่งขั้วเกี่ยวกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ ใช้นโยบายอันเข้มงวดมาตั้งแต่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2013
เรือลำดังกล่าวชนเข้ากับแนวปะการังหลังจากถูกกองทัพเรือออสเตรเลียส่งกลับ ซาราห์ แฮนสัน-ยัง วุฒิสมาชิกฝ่ายค้านพรรคกรีน กล่าวในถ้อยแถลง
“นโยบายผลักดันเรือกลับของออสเตรเลียยังคงทำให้ชีวิตของเด็กๆ ตกอยู่ในความเสี่ยง” แฮนสัน-ยังกล่าว
ขณะที่มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และไทยยุติการผลักดันเรือกลับ รัฐบาลออสเตรเลียกลับยังคงหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบของตนในภูมิภาคนี้ต่อไป และทำให้หลายชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยง”
ออสเตรเลียใช้ศูนย์กักกันนอกชายฝั่งในปาปัวนิวกินีและประเทศเกาะเล็กๆ แถบแปซิฟิกใต้อย่างนาอูรูเพื่อจัดการกับผู้ที่ต้องการเป็นผู้ลี้ภัย ซึ่งมักจ่ายเงินให้กับกลุ่มลักลอบค้ามนุษย์ในแดนอิเหนาเพื่อจับจองที่ในเรืออันทรุดโทรม พวกเขาจำนวนมากเสียชีวิตขณะพยายามไปยังแดนจิงโจ้