xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียโต้มะกันจุ้นจ้าน ยันใช้อ่าวเวียดนามเติมน้ำมันเครื่องบินไม่หนักใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ภาพที่ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ทำขึ้นใหม่ จากภาพของกองทัพเรือสหรัฐ เป็นเหตุการณ์เดือน มี.ค.2555 ที่มีเรือดำน้ำสหรัฐ กับเรือดำน้ำญี่ปุ่นอีกลำจอดอยู่ รวมทั้งเรือชั้นโอไฮโอ (Ohio-class) 1 ลำด้วย ที่นี่คือ อ่าวอาปรา (Apra Habour) เกาะกวม ฐานทัพเรือดำน้ำใหญ่ของสหรัฐแห่งหนึ่งในย่านอินโด-เอเชียแปซิฟิก สหรัฐไม่ปรารถนาให้เครื่องบินลำไหนของรัสเซียเข้าใกล้ แผนที่เล็กในภาพแสดงให้เห็น ระยะทางระหว่างอ่าวกามแรงในเวียดนามและเกาะกวม.</b>

มอสโก/วอชิงตัน, 13 มี.ค. (รอยเตอร์) - ในวันศุกร์นี้ รัสเซียได้ปฏิเสธความวิตกกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพเก่าของสหรัฐฯ แห่งหนึ่งในเวียดนาม เพื่อเติมเชื้อเพลิงเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ออกบินรอบๆ เขตแดนของสหรัฐฯ ในย่านเอเชียแปซิฟิก ทั้งยังระบุว่า คำแถลงของฝ่ายสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ “ชวนให้สงสัย” และ “”ดูประหลาด”

รอยเตอร์รายงานในวันพุธว่า สหรัฐฯ ได้ขอร้องเวียดนามให้ยุติการอนุญาตให้เครื่องบินเติมน้ำมันของรัสเซีย ไปใช้ฐานทัพอ่าวกามแรง (Cam Ranh/คัมราน) ในการเติมน้ำมันกลางอากาศให้แก่เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์รัสเซีย ที่มีขีดความสามารถติดอาวุธนิวเคลียร์ ที่ออกแสดงความเข้มแข็งในย่านเอเชียแปซิฟิก

“น่าแปลกใจที่ได้ยินคำแถลงดังกล่าวจากตัวแทนฝ่ายสหรัฐฯ ที่มีกองกำลังตั้งมั่นอย่างถาวรในหลายประเทศเอเชีย-แปซิฟิก และยังคงสืบต่อเพิ่มระดับกิจกรรมทางทหารในภูมิภาคนี้” กระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าว

ฝ่ายรัสเซีย ระบุด้วยว่า คำแถลงของสหรัฐฯ ที่ว่าการเติมเชื้อเพลิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียจากเวียดนาม อาจทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นสูงนั้น “ชวนให้สงสัย”

กระทรวงกลาโหม ยังระบุอีกว่า กิจกรรมของกองทัพอากาศรัสเซีย กับความร่วมมือกับเวียดนามนั้น “ดำเนินการสอดคล้องโดยเคร่งครัด กับปทัสฐานระหว่างประเทศ และความตกลงทวิภาคี ไม่ได้มีจุดหมายต่อต้านใคร หรืออะไรทั้งสิ้น และจะไม่เป็นการคุกคามต่อสันติภาพกับเสถียรภาพในภมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

พล.อ.วินเซ็นต์ บรู๊ก ผู้บัญชาการกองทัพบกสหรัฐในแปซิฟิก กล่าวต่อรอยเตอร์สัปดาห์ที่แล้วว่า เครื่องบิน (รัสเซีย) ได้ทำการบิน “ยั่วยุ” รวมทั้งบินรอบๆ เกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนแปซิฟิกของสหรัฐฯ และยังเป็นที่ตั้งฐานทัพขนาดใหญ่

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ปีนี้ว่า เครื่องบินบรรทุกน้ำมันแบบ อิล-78 (Il-78) ได้ไปใช้อ่าวกามแรงในปี 2557 ทำให้สามารถเติมน้ำมันกลางอากาศเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ ที่สามารถติดอาวุธนิวเคลียร์ แบบ TU-95 “แบร์” (Bear) ได้ สื่อในเวียดนามที่ทางการควบคุมก็รายงานเรื่องนี้เช่นกัน
.
<bR><FONT color=#000033>เครื่องบิน Il-78 กองทัพอากาศรัสเซีย เติมน้ำมันกลางอากาศให้ Su-27 กับ Su-30 และ เติมให้เครื่องบินได้อีกหลายรุ่น รวมทั้ง Tu-95 ด้วย เครื่องบินรบของรัสเซีย จะไม่สามารถบินถึงย่านนี้ได้ หากไม่มีแหล่งจัดหาเชื้อเพลิงกับเครื่องบินสำหรับเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ปัจจุบันสนามบินอ่าวกามแรงในเวียดนาม เป็นเพียงแห่งเดียวในย่านเอเชียแปซิฟิกที่เครื่องบินรัสเซียสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ซึ่งสร้างความกังวลให้สหรัฐ. </b>
2
<bR><FONT color=#000033>เครื่องบิน Il-78 ของกองทัพอากาศอินเดียที่ซื้อจากรัสเซีย ใช้เป็นเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศสำหรับฝูงบิน Su-30MKI ที่มีอยู่กว่า 200 ลำ กับเครื่องบินรบรุ่นอื่นๆ อีกจำนวนมาก เครื่องบินรบของรัสเซียจะไม่สามารถบินถึงย่านอินโด-เอเชียแปซฟิกได้เลย หากไม่มีแหล่งจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงกับเครื่องบินสำหรับเติมน้ำมันกลางอากาศ. </b>
3
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นางเจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว่าว่า สหรัฐฯ ไม่ประสงค์จะให้รัสเซียใช้อ่าวกามแรง

“เราได้เรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ของเวียดนามเพื่อให้หลักประกันว่า รัสเซียจะไม่สามารถใช้อ่าวกามแรง เพื่อดำเนินกิจกรรมที่อาจจะทำให้ภูมิภาคนี้ตึงเครียดยิ่งขึ้น” โฆษกของสหรัฐฯ กล่าว ระหว่างการแถลงข่าวปกติ

สถานีวิทยุเสียงอเมริกาได้รายงานอ้างโฆษกหญิงประจำสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮานอยผู้หนึ่ง ซึ่งกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า คำเรียกร้องของสหรัฐฯ ถูกส่งผ่านไปยังเจ้าหน้าที่ของฝ่ายเวียดนามสัปดาห์ที่แล้ว และเธอไม่ทราบว่ามีการตอบสนองใดๆ จากรัฐบาลเวียดนามหรือไม่

รัฐบาลเวียดนาม ไม่ได้ตอบสนองรอยเตอร์ ที่ร้องขอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน
.

<bR><FONT color=#000033>Tu-95 Bear ตามที่นาโต้เรียก ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบพร็อพ รูปลักษณ์ก็ไม่ล่องหน ใช้งานมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น สมัยที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต แต่ถึงจะเก่าก็ยังเต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บ ไม่เพียงแต่บินรอบโลกได้เท่านั้น หากยังติดระเบิดนิวเคลียร์ กับจรวดร่อนยิงเป้าหมายภาคพื้นดินหรือผิวน้ำได้อีกด้วย แต่เจ้าหมีจะไม่สามารถเข้ามาเพ่นพ่านในย่านเอเชียแปซิฟิกได้ หากปราศจากแหล่งจัดหาน้ำมัน และเติมน้ำมันกลางอากาศ.</b>
4

* เราไม่ได้ตั้งใจที่จะรับฟัง *

ในวันศุกร์นี้ สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียได้รายงานอ้างนายคอนสแตนติน วนูคอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำเวียดนาม ซึ่งกล่าวว่า เวียดนาม และรัสเซีย ต่างเป็นประเทศเอกราชที่ “ไม่ต้องการการชี้แนะ หรือความเห็นจากผู้ใด และเราไม่ได้ตั้งใจที่จะรับฟังความเรียกร้องต้องการ (ของใคร)”

รัสเซีย กับเวียดนามเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน และมอสโก เป็นผู้สนับสนุนฮานอยในการต่อสู้กับสหรัฐฯ ในสงครามมเวียดนาม ที่ยุติลงในปี 2518

แต่เหตุขัดแย้งในปัจจุบันได้ปรากฏขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐฯ อบอุ่นเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงปลอดภัย รวมทั้งความวิตกกังวลร่วมกันต่อการเติบใหญ่ทางอำนาจของจีน และการขยายเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

วอชิงตัน กระตือรือร้นที่จะให้ตนเองมีโอกาสเข้าใช้อ่าวกามแรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ “ปักหมุด” ในเอเชีย เพื่อต่อต้านความเข้มแข็งของจีนที่กำลังเพิ่มขยาย

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เรือของสหรัฐฯ หลายลำได้เข้าไปใช้อ่าวเวียดนามสำหรับการซ่อมแซม

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้พยายามที่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์เวียดนามโดยตรงเกี่ยวกับเที่ยวบินของรัสเซีย ซึ่งเป็นการเน้นว่า สหรัฐฯ เคารพในสิทธิของเวียดนามที่จะทำความตกลงกับประเทศอื่นๆ

ในวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่อาวุโสในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกรอยเตอร์ว่า วอชิงตันไม่เห็น “ข้อบ่งชี้ใดๆ ว่า ความสัมพันธ์ของเวียดนามกับรัสเซียจะทำให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ลดระดับ หรืออ่อนแอลง หรือได้รับผลกระทบ”.
กำลังโหลดความคิดเห็น