เอเอฟพี - กองทัพทหารพม่ารุกหนักหวังกำจัดกลุ่มกบฏออกจากพื้นที่รอบเมืองที่เป็นจุดขัดแย้ง บริเวณชายแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับจีน สื่อทางการของพม่าระบุวันนี้ (20) หลังการต่อสู้นาน 11 วัน ทำให้ผู้คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยแล้วหลายหมื่นชีวิต
ความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ที่กลุ่มกบฏโกกังได้สังหารทหารไปเกือบ 50 นาย ระหว่างการโจมตีหลายระลอกในเมืองลอกกาย ทำให้ประชาชนอย่างน้อย 30,000 คน ต้องหลบหนีข้ามไปยังฝั่งจีน ซึ่งทำให้รัฐบาลกรุงปักกิ่ง ต้องออกมาเรียกร้องให้ยุติการปะทะ
ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งในจำนวนใกล้เคียงกันเชื่อว่าอพยพหาที่หลบภัยอยู่ภายในรัฐชานของพม่า แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ เนื่องจากกลุ่มช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของท้องถิ่นปฏิบัติงานได้อย่างจำกัด หลังเกิดเหตุขบวนรถช่วยเหลือของสภากาชาดพม่าถูกโจมตี
กองทัพได้ตอบโต้กลับเข้าใส่กลุ่มกบฏด้วยการโจมตีทางอากาศ และกองกำลังภาคพื้นดิน หลังถูกฝ่ายกบฏโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวในช่วงแรก
รายงานของหนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ระบุว่า ฝ่ายทหารของรัฐบาลพบศพฝ่ายกบฏ 2 ศพ หลังการต่อสู้ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีเพื่อรักษาเส้นทางที่มุ่งไปสู่เมืองลอกกาย ที่ในตอนนี้กลายเป็นเมืองร้าง
กลุ่มกบฏระบุว่า ฝ่ายตนทำให้ฝ่ายทหารได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตเช่นกันในช่วงไม่กี่วันนี้
กลุ่มกบฏโกกัง ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนยังคงซุ่มโจมตีขบวนรถของกองทัพ แม้จะสูญเสียสมาชิกไปหลายสิบในการตอบโต้ของรัฐบาล
นอกจากนั้น กลุ่มโกกังยังมีกลุ่มกบฏที่อยู่ใกล้กันเข้าร่วมด้วย คือ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง และกองทัพกะฉิ่นอิสระ ซึ่งนับว่าเป็นลางไม่ดีสำหรับสันติภาพในประเทศ
พลเรือนจำนวนมากยังคงเดินทางอพยพไปที่เมืองลาเฉียว ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ต่อสู้ราว 140 กม.
“พวกเราออกมาตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดี พวกเรากลัวกันมาก การต่อสู้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง มีอยู่วันหนึ่งพวกเขาเริ่มสู้กันตั้งแต่ประมาณบ่าย 3 จนถึงเช้าวันต่อมา” หญิงวัย 50 ปี กล่าวต่อเอเอฟพี ขณะเข้าไปพักอยู่ในวัดของเมืองลาเฉียว ที่เป็นจุดพักสำหรับผู้ลี้ภัย
ความพยายามที่จะอพยพผู้คนจากชุมชนห่างไกลต้องหยุดชะงักลง หลังเกิดเหตุโจมตีขบวนรถกาชาดท้องถิ่นที่ทำให้พนักงานช่วยเหลือได้รับบาดเจ็บ 2 คน ซึ่งยังคงไม่แน่ชัดว่าฝ่ายใดเป็นผู้ยิงใส่ขบวนรถ 6 คัน ที่บรรทุกพลเรือน และผู้สื่อข่าว
ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ในนครย่างกุ้ง กล่าวประณามการโจมตีว่า เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้
พม่า กล่าวโทษแกนนำกบฏโกกัง พอน จา ชิน (Phon Kya Shin) ต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นหลังอยู่ในความสงบมา 6 ปี และยังเรียกร้องให้ทางการจีนควบคุมเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนใดก็ตามที่อาจให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏจากฝั่งพรมแดนจีน ขณะที่ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ให้คำมั่นว่าจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้เพียงตารางนิ้วเดียวให้แก่กลุ่มกบฏ.