รอยเตอร์ - กาชาดพม่าเผยวานนี้ (22) ว่า รถติดธงสัญลักษณ์กาชาดถูกโจมตีใกล้พรมแดนจีน ที่การต่อสู้ยังคงดุเดือดระหว่างทหารของรัฐบาล และกลุ่มก่อความไม่สงบชาติพันธุ์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน รวมทั้งอาสาสมัคร นับเป็นการโจมตีรถกาชาดครั้งที่ 2 ภายในรอบสัปดาห์
ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ของพม่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และใช้กฎอัยการศึกในเขตโกกัง หลังมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 70 คน ในการต่อสู้ระหว่างกองทัพทหารพม่า และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (MNDAA)
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขัดขวางรัฐบาลกึ่งพลเรือนที่กำลังพยายามจะยุติความเป็นศัตรูกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่ลุกขึ้นมาจับอาวุธนับตั้งแต่ประเทศได้เอกราชในปี 2491
สภากาชาดพม่า (MRCS) ระบุว่า รถติดธงกาชาดถูก MNDAA โจมตี ขณะเดินทางจากเมืองลอกกาย ไปยังเมืองกุ๋นโหลง เมื่อวันอาทิตย์ (22)
“หลังเกิดเหตุมีรายงานว่า กองทัพเข้าตอบโต้เหตุโจมตีรถกาชาดที่เกิดขึ้น ก็ถูกโจมตีที่บริเวณเดียวกัน และมีทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย” MRCS ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง
ตา หล่า ฉ่วย ประธาน MRCS ระบุว่า รู้สึกตกใจอย่างมากต่อเหตุการณ์การโจมตีครั้งที่ 2 นี้ และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้
เมื่อวันอังคารก่อน (17) ผู้โจมตีไม่ทราบฝ่ายได้ยิงใส่ขบวนรถกาชาด 8 คัน ขณะพยายามที่จะขนพลเรือนผู้ไร้ที่อยู่จากเหตุต่อสู้ในเมืองลอกกาย ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน
รัฐบาลกล่าวโทษว่า MNDAA เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ แต่ฝ่าย MNDAA ออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้อง
การต่อสู้ระหว่างกองทัพทหารพม่า และ MNDAA ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ทำให้พลเรือนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ ทั้งที่หลบหนีไปยังพื้นที่อื่นๆ ของพม่า และข้ามแดนไปจีน
เมื่อวันเสาร์ (21) พล.ท.เมียะ ทุน อู เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสของกองทัพทหารพม่ากล่าวต่อผู้สื่อข่าวในกรุงเนปีดอ เมื่อวันเสาร์ ว่า หลักฐานแสดงให้เห็นว่าทหารรับจ้างชาวจีนได้ให้ความช่วยเหลือกลุ่ม MNDAA
“จากข้อมูลที่ได้จากการสอบถามบรรดาผู้ที่ถูกจับกุม และผู้ที่ยอมมอบตัว มีเหตุผลพอสมควรที่จะสรุปได้ว่ามีทหารรับจ้างชาวจีนอยู่ในกลุ่มกบฎโกกังที่เปิดฉากโจมตีเมื่อเร็วๆ นี้” พล.ท.เมียะ ทุน อู กล่าว.