รอยเตอร์ - เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบฝ่ายโจมตีขบวนรถของกาชาด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย วานนี้ (17) นับเป็นการโจมตีครั้งแรกต่อขบวนรถของกาชาด ในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ที่การต่อสู้ระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาล และกลุ่มก่อความไม่สงบชาติพันธุ์ยังคงดุเดือดมากว่า 2 สัปดาห์
ผู้ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งถูกยิงใกล้ดวงตา และอีกคนหนึ่งที่บริเวณลำตัว ขณะขบวนรถ 8 คัน ที่ติดเครื่องหมายสภากาชาดพม่า (MRCS) ถูกโจมตี พยานรายหนึ่งกล่าว โดยขบวนรถกำลังพยายามที่จะช่วยอพยพพลเรือนไร้ที่อยู่อันเนื่องจากการต่อสู้ในเมืองลวกไก เมืองเอกของเขตโกก้าง ใกล้พรมแดนจีน
“เราไม่เคยถูกโจมตีเช่นนี้มาก่อน นี่ถือเป็นครั้งแรก” ชเว ซิน มี้นต์ โฆษกหญิงของ MRCS กล่าว
การต่อสู้ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ระหว่างกองทัพทหารพม่า และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์ (MNDAA) และพลเรือนหลายพันคนต้องหลบหนีออกจากพื้นที่ ทั้งที่หนีไปยังพื้นที่อื่นของประเทศ และข้ามพรมแดนไปยังฝั่งจีน
การปะทะที่เกิดขึ้นทำให้จีนส่งเสียงเตือนเรียกร้องความสงบตามแนวชายแดน ด้วยเกรงว่าการปะทะกันนั้นจะส่งผลให้เกิดการอพยพของผู้คนเป็นจำนวนมาก
นับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. เป็นต้นมา มีทหารพม่าเสียชีวิตจากการต่อสู้ไปแล้วอย่างน้อย 47 นาย และนักรบของฝ่าย MNDAA 27 คน ตามการระบุของหนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์
MNDAA เคยเป็นส่วนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า อันเป็นกองกำลังที่จีนให้การสนับสนุนต่อสู้กับรัฐบาลพม่า จนกระทั่งกลุ่มแยกตัวในปี 2532
การสู้รบระหว่างกลุ่มกบฏ และกองทัพในปี 2552 ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยหลายแสนคนเข้าไปยังพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน สร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐบาลปักกิ่ง
การสู้รบ และการสูญเสียอย่างหนักขัดขวางความพยายามของรัฐบาลที่จะลงนามข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ และยุติความไม่สงบที่เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานของพม่า นับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2491 ได้เพียงไม่นาน.