ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลพม่าได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขตโกกัง ที่เป็นพื้นที่ปกครองตนเองใกล้กับเมืองลอกกาย (Laukkai) ทางตอนเหนือของรัฐชาน ในวันอังคาร 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ติดตามด้วยการประกาศใช้าวะฉุกเฉินในพื้นที่ที่เกิดการปะทะกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์อย่างน้อย 3 กลุ่ม ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไล้ท์ออฟเมียนมาร์ ฉบับวางตลาดวันพุธนี้ ได้ตีพิมพ์เผยแพร่คำสั่งต่างๆ โดยประธานาธิบดี กับบัญชาการกองทัพอย่างละเอียด รวมทั้งการแต่งตั้งนายทหารยศนายพันเอก ผู้บังคับการทหารรัฐบาลในพื้นที่คนหนึ่ง เป็นผู้มีอำนาจในการรักษาความสงบภายใต้กฎอัยการศึก ในพื้นที่กลายเป็นเขตทหารอย่างสมบูรณ์ในขณะนี้
“ทั้งเมืองกลายเป็นเมืองร้าง มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางการ กับทหารที่ได้รับคำสั่งยิงทันทีผู้ที่ออกนอกบ้านในยามวิกาล และที่เข้าไปในพื้นที่ห้ามเข้า” ในขณะที่ราษฎรนับหมื่นๆ คนได้หนีไปยังพื้นที่อื่น รวมทั้งข้ามเข้าไปในดินแดนจีน นิตยสารข่าวเมียนมาร์ไทมส์รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาพม่า ที่มีการอ้างถึงในเว็บไซต์ข่าวอีกหลายแห่ง
การประกาศใช้กฎอัยการศึกยังมีขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์หนึ่งในวันเดียวกัน ที่กองกำลังไม่ทราบฝ่ายซุ่มยิงขบวนรถติดเครื่องหมายกาชาด ทำให้อาสาสมัคร 2 คนบาดเจ็บ ขณะเดินทางเข้าไปในเขตลอกกาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ
มาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยเหล่านี้ประกาศใช้หลังจากฝ่ายรัฐบาลส่งทหารเข้าตีที่ตั้งของกลุ่มติดอาวุธโกกัง ที่กลับเข้ายึดครองพื้นที่ในช่วงหลายเดือนมานี้ กลุ่มดังกล่าวเคยเป็นส่วนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า ที่นิยมลัทธิเหมาเจ๋อตงแบบจีน และเคยได้รับการสนับสนุนจากจีน
กลุ่มดังกล่าวเคยถูกกองทัพพม่าเข้าตีจนแตกพ่ายไปเมื่อปี 2552 พลพรรคได้กลายสภาพเป็นพลเรือนหลบหนีเข้าดินแดนจีน แต่ได้กลับรวมตัวกันอีกครั้งภายใต้ชื่อใหม่ว่า กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (Myanmar National Democratic Alliance Army - MNDAA) ซึ่งประเมินกันว่ามีกองกำลังติดอาวุธราว 1,000 คน
กลุ่มโกกัง ถูกหลายฝ่ายกล่าวหาว่า ลักลอบผลิต และจำหน่ายยาเสพติดหลายชนิด เป็นกองกำลังอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์เพียงไม่กี่กลุ่มที่ยังไม่ยอมเข้าร่วมเจรจาสันติภาพ และทำข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายรัฐบาลในช่วงหลายปีมานี้
ทหารรัฐบาลอย่างน้อย 47 คนเสียชิวิต อีกกว่า 70 คน บาดเจ็บระดับต่างๆ กันจากการสู้รบ และการปะทะย่อยที่เริ่มขึ้นวันที่ 9 ก.พ. และดำเนินมาตลอดสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีการโจมตีทิ้งระเบิดด้วยเครื่องบินมิก-29 (MiG-29) กับการยิงโจมตีด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบ Mi-35 ด้วย ในสัปดาห์นี้ก็ยังมีการปะทะประปรายเกิดขึ้นในบางพื้นที่
ฝ่ายรัฐบาลแถลงว่า มีกองกำลังกลุ่มโกกังถูกสังหารไป 13 คน ในเหตุกรณ์เดียวกัน อีกกว่า 10 คนถูกจับเป็นเชลยโดยได้รับบาดเจ็บสาหัส ในนั้นมี 5 คนเสียชีวิตอีกในเวลาต่อมา
ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพ ระบุในคำสั่งประกาศใช้กฎอัยการศึกระบุว่า “เพื่อนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนสู่เขตปกครองตนเองโกกัง” และได้ประกาศแต่งตั้งให้ พล.อ.มินอองหล่าย ผู้บัญชาการกองทัพ เป็นผู้ใช้อำนาจเต็มภายใต้กฎอัยการศึกและภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ดังกล่าวอันเป็นอำนาจตามรัฐธรรมนูญ
พล.อ.อองหล่าย แถลงเมื่อวันจันทร์ระบุว่า กล่มติดอาวุธโกกังได้รับการช่วยเหลือจากกองกำลังแนวร่วมอีกอย่างน้อย 3 กลุ่ม คือ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta-ang National Liberation Army) กับกองทัพอาระกัน (Arakan Army) แห่งยะไข่ รวมทั้งกองทัพเพื่อเอกราชแห่งรัฐกะฉิ่น (Kachin Independent Army) ซึ่ง 2 กลุ่มแรกยืนยันเรื่องนี้ แต่โฆษกของ KIA ได้ออกปฏิเสธ
.
2
รัฐบาลได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยึดได้จากฝ่ายกบฏเป็นจำนวนมากออกแสดงระหว่างแถลงข่าว ซึ่งรวมทั้งปืนกลที่ใช้เป็นอาวุธหลักในการปะทะ ทำให้กองทัพพม่าต้องใช้อากาศยานในการโจมตีทิ้งระเบิดฝ่ายกบฏ และยิงโจมตีตั้งของปืนกลบนพื้นที่สูง นอกจากนั้น ยังนำยาเสพติดจำนวนมาก รวมทั้งเฮโรอีนที่ทหารกล่าวว่ายึดได้ในพื้นที่ออกวางแสดงด้วย
ตามรายงานของสื่อพม่า ราษฎรในพื้นที่โดยรอบ และในเขตเมืองลอกกายกว่า 10,000 คนได้เดินทางลงใต้มุ่งสู่เมืองใหญ่หลายแห่งของรัฐชาน ที่อยู่ไกลออกไปกว่า 100 กิโลเมตร อีกจำนวนมากขึ้นรถโดยสารประจำทางหลบหนีความรุนแรงไปจนถึงนครมัณฑะเลย์ ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 200 กม. กลายเป็นผู้อพยพในประเทศ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์จีนในมณฑลหยุนหนัน ปัจจุบัน มีชาวพม่าชาติพันธุ์ต่างๆ หลบหนีข้ามพรมแดนเข้าสู่จีนแล้วกว่า 30,000 คน ซึ่งเป็นสภาพที่ไม่แตกต่างไปจากเมื่อปี 2552 ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากทางการจีน.
.
ตามรายงานของสื่อพม่า มีราษฎรกว่า 10,000 คน ได้อพยพออกจากพื้นที่สู้รบไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปในรัฐชาน และไกลออกไปจนถึงนครมัณฑะเลย์ ขณะที่สื่อของจีนในมณฑลหยุนหนันรายงานว่า ขณะนี้มีชาวพม่าชาติพันธุ์ต่างๆ หลบหนีเข้าไปในดินแดนจีนนับหมื่นคนอีกราว 30,000 หลบไปอาศัยในแหล่งชั่วคราวตามแนวชายแดนในเขตโกกังของพม่า ไม่ต่างจากเมื่อปี 2552. -- Reuters.. |
3
4
5
6
7
8
ตามรายงานของสื่อพม่า กองกำลังติดอาวุธที่ไม่ทราบฝ่ายได้ยิงโจมตีขบวนรถที่ติดเครื่องหมายกาชาด ขณะพยายามเข้าไปในเมืองลอกกาย (Laukkai) เมืองเอกของเขตปกครองตนเองโกกัง (Kokang) วันอังคาร 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้อาสาสมัครกาชาดชาวพม่า 2 คน บาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนหน้าจะมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก และภาวะฉุกเฉิน ซึ่งเท่ากับมีการห้ามออกนอกเคหสถานตลอด 24 ชั่วโมงในพื้นที่ดังกล่าวโดยปริยาย. -- Reuters/Soe Zeya Tun. |
9
10
11
12