ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัสเซียได้จัดส่งครื่องบินรบ Su-30 MK2 ให้แก่เวียดนามอย่างเงียบๆ อีก 2 ลำ ในวันสิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา ครบจำนวน 4 ลำ ตามข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว อีก 8 ลำที่เหลือจะทยอยส่งมอบให้ทั้งหมดในปี 2558 นี้ สำนักข่าวทาสส์ (ITAR-TASS) ของทางการรายงานเรื่องนี้ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นการส่งมอบที่เร็วขึ้นอีก 1 ปี เลยทีเดียว
ทั้งหมดเป็น Su-30MK2 ล็อตใหม่ จำนวน 12 ลำ ที่เซ็นซื้อขายกันในปลายปี 2556 และเมื่อส่งมอบครบทั้งหมดภายในสิ้นปี กองทัพอากาศเวียดนามก็จะมีเครื่องบินรบทันสมัย และเป็นที่นิยมมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของโลกรวม 36 ลำ ตามแผนการจัดหาเครื่องบินรบรุ่นเดียวกันนี้ “3 ฝูง +” ในนิยามของกองทัพอากาศ
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ (Interfax) ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักข่าวที่เอกชนเป็นเจ้าของ ได้รายงานพร้อมตีพิมพ์เผยแพร่ภาพ Su-30MK2 จำนวน 2 ลำแรกที่รัสเซียนำไปส่งมอบให้แก่เวียดนาม เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่สนามบินทหารนครด่าหนัง ในภาคกลางของประเทศ
ในครั้งนี้สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า อีก 2 ลำมีการส่งมอบใน “สิ้นเดือนเดียวกัน” ซึ่งไม่มีรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้จากสื่อในเวียดนาม ที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการเคานต์ดาวน์ และเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ในปีนี้เช่นกัน อู่ต่อเรือบาซอน (Bason Shipyard) ในนครโฮจิมินห์ จะส่งมอบเรือเร็วโจมตีติดจรวดนำวิถีชั้นโมลีนยา (Molniya) ให้กองทัพเรือเวียดนามอีก 2 ลำ ครบจำนวน 4 ลำ ภายใต้สัญญาซื้อขาย-ร่วมผลิตระหว่างสองฝ่าย ที่เซ็นกันเมื่อปี 2556 เรือทั้งหมดต่อในเวียดนาม ด้วย
เทคโนโลยีรัสเซีย 2 ลำแรกเป็นหมายเลข HQ-377 กับ HQ-378 ส่งมอบเมื่อปีที่แล้ว
นี่คือเรือโจมตีติดจรวดที่ใช้งานมานานตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ในสมัยที่เป็นสหภาพโซเวียต และ ได้รับการพัฒนามาเป็นระยะ ปัจจุบันยังมีประจำการในกองทัพเรือรัสเซีย และอีกกว่า 10 ประเทศในย่านนี้ ยังรวมทั้งกองทัพเรืออินเดียด้วย
บาซอน เป็นอู่ต่อเรือเก่าแก่อายุ 160 ปี ในสมัยฝรั่งเศสปกครอง ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นแหล่งซ่อมเรือใหญ่ และทันสมัยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในย่านนี้ ปัจจุบันก็ยังมีเรือขนาดใหญ่จากหลายประเทศไปใช้บริการที่นั่น รวมทั้งเรือจากประเทศไทยด้วย
รัสเซีย กับเวียดนามเป็นพันธมิตรทางด้านกลาโหม ที่มีประวัติความสัมพันธ์กันมายาวนานตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต สิ่งที่สื่อเวียดนามเรียกว่า “การคุกคามจากจีน” ได้ทำให้ประเทศที่ผ่านสงครามมายาวนานในหลายยุค ต้องหันมาพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันประเทศอย่างขนานใหญ่อีกครั้งหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้
ปลายปี 2552 เวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อเรือดำน้ำชั้นคิโล (Project 636 Varshavyanka) จากรัสเซีย จำนวน 6 ลำ ในแพกเกจใหญ่รวมมูลค่าประมาณ 2,100 ล้านดอลลาร์ ติดตามด้วยการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินรบอีก 3 ล็อต เรือฟริเกตชั้นเกพาร์ด 3.9 อีก 4 ลำ ระบบเรดาร์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ระบบจรวดยิงเรือ ระบบจรวดป้องกันทางอากาศ และระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน รวมทั้งระบบอาอาวุธอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งด้วย
รัสเซีย เพิ่งส่งมอบเรือดำน้ำลำที่ 3 ให้เวียดนามเมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อีก 1 ลำ มีกำหนดส่งมอบปลายปีนี้ และ 2 ลำสุดท้ายภายในปี 2559 เรือฟริเกตอีก 2 ลำ มีกำหนดในปี 2559 และ 2560 ทั้งนี้ เป็นรายงานของสื่อรัสเซีย
กองทัพเรือเวียดนาม ยังคงรอการส่งมอบเรือคอร์แว็ตอีก 2 ลำ ที่ซื้อจากเนเธอร์แลนด์ ทั้ง 2 ลำติดจรวดเอ็กโซเซต์ ตอร์ปิโด และระบบจรวดต่อสู้อากาศยานที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส.
.