xs
xsm
sm
md
lg

ตัวแทนเจ้าของ-ไต๋เรือบารมีพ่อ 9 เข้าให้ปากคำตำรวจ ระบุเอาผิดคดีพยายามฆ่าให้ถึงที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พังงา - ตัวแทนเจ้าของ และไต๋เรือประมง “บารมีพ่อ 9” เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.คุระบุรี หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองระนอง ระดมยิงด้วยอาวุธสงครามจนเรือได้รับความเสียหาย ลูกเรือกระโดดน้ำหนีเอาชีวิตรอด ระบุเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเรือนที่เกี่ยวข้องในคดีพยายามฆ่าในถึงที่สุด

วันนี้ (12 ม.ค.) ที่ สภ.คุระบุรี อ.คุระบุรี จ.พังงา นายยุทธชัย จันทร์ฉาย ผู้จัดการและตัวเจ้าของเรือบารมีพ่อ 9 และนายทองใบ ทำทอง ไต๋เรือที่อยู่ในเหตุการณ์ยิงถล่มเรือประมงกลางทะเลอันดามัน ระหว่างรอยต่อจังหวัดพังงา-ระนอง เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.กฤษณะ เพ็งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.คุระบุรี จ.พังงา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติมจากกรณีที่มีบุคคลใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเรือประมงจนได้รับความเสียหายขณะออกทะเลไปหาปูจักจั่น ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.คุระบุรี ได้ใช้เวลาสอบปากคำไต๋เรือผู้เสียหายนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยทางไต๋เรือได้นำเอกสารที่ขอมาจากทหารเรือที่เรือหลวงศรีราชาบันทึกเอาไว้ ระบุตัวผู้ก่อเหตุเป็นสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ และสำเนาบัตรประชาชนพลเรือน และภาพเรือลำที่ใช้ก่อเหตุให้พนักงานสอบสวนเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย และคนขับเรืออีก 1 คน เป็นพลเรือนที่อยู่ในเรือประมงที่ไล่ยิงเรือหาปูจักจั่นเพื่อเร่งดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน

แต่ในเบื้องต้นขณะนี้แม้ว่าทางไต๋เรือได้นำเอกสารที่ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดระนอง ตามที่ทหารเรือยืนยันมาแล้วว่ามีส่วนรู้เห็นในการยิงเรือประมงมาให้แก่พนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึก แต่กลับพบว่า ในสำนวนดังกล่าวของทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ระบุตัวบุคคลทั้งหมดที่ก่อเหตุ

นายยุทธชัย จันทร์ฉาย เจ้าของเรือบารมีพ่อ 9 กล่าวว่า ขณะนี้ได้นำเอกสารที่ขอมาจากเรือหลวงศรีราชาของทหารเรือ ที่ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในพื้นที่จังหวัดระนอง และจังหวัดกระบี่ จำนวน 6 นาย เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง และขอยืนยันจะไม่ยอมความอย่างเด็ดขาด และจะเอาเรื่องดำเนินคดีต่อบุคคลที่ก่อเหตุในข้อหาพยายามฆ่า เพราะดูแล้วทำเกินกว่าเหตุไม่น่าใช่การปฏิบัติหน้าที่ หากเป็นการติดตามจับกุมคนร้ายจริง เมื่อเจอเรือต้องสงสัยก็ควรส่งสัญญาณในการตรวจค้น ไม่ใช่ว่าขับเรือเข้ามาใกล้แล้วใช้อาวุธสงครามระดมยิงใส่เรือของตนจนได้รับความเสียหาย ทั้งจากตัวเรือ เสากระโดงเรือ คานเรือ สมอเรือ และเรดาร์ที่โดนกระสุนปืนจนได้รับความเสียหาย จนลูกเรือเกือบเอาชีวิตไม่รอดต้องกระโดดน้ำหนีตายก่อนจะขอความช่วยเหลือจากเรือรบหลวงศรีราชา

ด้านนายทองใบ ทำทอง ไต๋เรือบารมีพ่อ 9 กล่าวว่า ตอนนี้ตนต้องหลบไปอาศัยที่บ้านญาติซึ่งไม่สามารเปิดเผยได้ เนื่องจากว่าหลังจากเป็นข่าวออกไปได้มีชายแปลกหน้าขับรถมาวนเวียนที่บ้าน และมีโทรศัพท์โทร.เข้ามาหาตนตลอดเวลา และมีการขู่ห้ามให้ข่าว ห้ามแจ้งความ ซึ่งตนรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวมาก ซึ่งครอบครัวของตนมีลูกยังเล็กอาศัยอยู่ ตนคิดว่าหลบไปที่ที่ปลอดภัยก่อนดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของตนเอง และครอบครัว พร้อมตั้งขอสงสัยว่าทำไมตำรวจเมืองระนองชุดนี้มาทำอะไรในทะเลโดยไม่มีการประสานตำรวจน้ำ หรือทหารเรือมาก่อน ทั้งนี้ หากเป็นการปฏิบัติหน้าที่ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่า 7 ศพมาจริง ทำไมไม่ส่งสัญญาณว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะขอทำการตรวจค้นเรือ แต่กลับใช้วิธีการระดมยิงด้วยอาวุธ จนตอนนี้เรือประมงต่างๆ ต้องหยุดออกหาปลา เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย และรอดูท่าทีว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการด้านคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดระนองในรูปแบบใด พวกตนทำอาชีพประมงด้วยความสุจริต และก็ทำกันมานานแล้วลักษณะของเรือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนำมาใช้ตนรับรองได้ว่าไม่ใช่เรือที่สร้างในประเทศไทยแน่นอน และเรือลักษณะนี้ก็เป็นเรือที่ไม่มีทะเบียนแน่นอน หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจริงๆ น่าจะทราบอย่างแน่นอนว่าเรือลำนี้มาจากที่ไหนกันแน่ และทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวถึงนำเรือดังกล่าวมาใช้ หลังจากเกิดเหตุยังไม่มีใครเข้ามาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เรือได้รับความเสียหาย ค่าซ่อมเรดาร์ มูลค่าความเสียหายตอนนี้ตนคิดว่าน่าจะประมาณกว่า 5 แสนบาท และต้องเอาเรื่อง และดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ให้ถึงที่สุด

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น