พังงา - ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่ สภ.คุระบุรี จ.พังงา สอบสอบปากคำผู้บังคับการเรือหลวงศรีราชา ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญยิงเรือประมง บารมีพ่อ 9 เพื่อหาข้อเท็จจริงทั้ง 2 ฝ่าย
พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี ผู้บังคับการ ประจำกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีตำรวจอ้างตัวเป็นชุดเฉพาะกิจภูธรจังหวัดระนอง จำนวน 6 นาย ยิงถล่มเรือประมง บารมีพ่อ 9 ห่างจากหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ประมาณ 10 ไมล์ทะเล เมื่อวันที่ 7 ม.ค.58 ที่ผ่านมา เพื่อสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้าข่ายกระทำโดยประมาท หรือว่าทำเกินกว่าเหตุ จนทำให้เรือประมง บารมีพ่อ 9 ได้รับความเสียหาย และลูกเรือต้องกระโดดหนีตายจากเรือเพื่อเอาชีวิตรอด ต้องลอยคอกลางทะเลนานกว่า 4 ชั่วโมง โชคดีที่เรือรบหลวงศรีราชา มาช่วยได้ทันเวลา พนักงานสอบสวนได้ร่วมกับ พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย รอง ผบก.ภ.จว.พังงา ซึ่งได้รับมอบหมายให้ควบคุมดูแลการสอบสวน พร้อมจัดทำสำนวนคดีเพื่อฟ้องเอาผิดทางอาญา ทางวินัย และทางแพ่งต่อตำรวจชุดดังกล่าว
โดย พ.ต.อ.ธีรยุทธ สันติวิสัฎฐ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคุระบุรี ได้ทำหนังสือเชิญไปยัง นาวาตรีทักษพล น้ำหอม ผู้บังคับการเรือหลวงศรีราชา ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเรือรบหลวงศรีราชาไปช่วยเรือประมงบารมีพ่อ 9 หลังได้รับแจ้งจากเรือประมงขอความช่วยเหลือว่าถูกเรือลักษณะคล้ายเรือประมงไม่ทราบสัญชาติใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเรือประมง บารมีพ่อ 9 มาให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีต่อตำรวจทั้ง 6 นาย โดยใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยมีการแยกกันสอบสวน นายยุทธชัย จันร์ทฉาย ผู้จัดการเรือ บารมีพ่อ 9 นายทองใบ ทำทอง ไต้ก๋งเรือ บารมีพ่อ 9 และพยานซึ่งเป็นชาวประมงซึ่งจอดเรืออยู่บริเวณใกล้เคียง และเป็นผู้ที่วิทยุขอความช่วยเหลือไปยังเรือรบหลวงศรีราชา คือ นายเกษม บัวคำ และนายอภิสิทธิ์ บัวคำ
นาวาตรีทักษพล น้ำหอม ผู้บังคับการเรือหลวงศรีราชา กล่าวสั้นๆ ต่อผู้สื่อข่าวว่า ตอนที่เข้าไปช่วยเรือประมง บารมีพ่อ 9 นั้นพบได้เข้าไปตรวจค้นบนเรือของตำรวจภูธรจังหวัดระนองซึ่งพบว่า มีชายฉกรรจ์ จำนวน 7 คน พร้อมอาวุธสงคราม เครื่องกระสุนจำนวนมาก และยังมีการแสดงตัวว่าเป็นตำรวจภูธรจังหวัดระนอง มาปฎิบัติหน้าที่ติดตามคนร้ายแต่ไม่ได้บอกว่าทำไมถึงต้องยิงเรือประมงด้วย แต่จากการติดต่อกับหัวหน้าชุดดังกล่าวยืนยันว่า มาปฏิบัติงานจริง และตนก็เห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะไม่คิดหลบหนี จึงได้ปล่อยตัวไป และชี้แจงถึงสาเหตุที่ปล่อยตัวตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ก่อเหตุไปพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยมิได้อายัดไว้ตรวจสอบตั้งแต่วันเกิดเหตุ