เอเอฟพี - ศาลที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนของกัมพูชา ฟังคำให้การของอดีตนักโทษเขมรแดงที่ระบุว่า ได้ช่วยขุดหัวกะโหลกมากกว่า 12,000 หัว ขึ้นมาจากหลุมศพหมู่ขนาดใหญ่นอกกรุงพนมเปญ ในการพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อ 2 อดีตแกนนำเขมรแดง
นวน เจีย อายุ 88 ปี และเคียว สมพร อายุ 83 ปี ถูกตั้งข้อหาสังหารชาวเวียดนาม และชนกลุ่มน้อยมุสลิม บังคับแต่งงาน และข่มขืน ระหว่างการปกครองของเขมรแดงในปี 2518-2522
ในเดือน ส.ค.2557 ทั้งคู่ถูกตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตจากการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้นำระดับสูงของเขมรแดงถูกตัดสินจำคุก หลังการพิจารณาคดีนาน 2 ปี ที่มุ่งประเด็นเกี่ยวกับการบังคับอพยพชาวกัมพูชาออกจากกรุงพนมเปญไปยังค่ายแรงงานในชนบทและการฆาตกรรมที่พื้นที่สังหาร
อดีตแกนนำเขมรแดงทั้ง 2 คน ถูกกล่าวหาว่า มีบทบาทสำคัญในยุค “ทุ่งสังหาร” การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2 ล้านคน ในช่วงปลายทศวรรษ 1970
แก้ว จันดารา อดีตนักโทษอายุ 63 ปี ระบุว่า ได้ช่วยขุดหัวกะโหลกมากกว่า 12,100 หัว ขึ้นจากหลุมศพหมู่ 8 หลุม ที่เรือนจำแกรงตาจัน ใน จ.ตาแก้ว ห่างจากกรุงพนมเปญ ไปทางใต้ราว 80 กิโลเมตร ไม่นานหลังจากการปกครองของเขมรแดงล่มสลายในปี 2522
“เราไม่ได้ขุดขึ้นมาทุกหลุม ผมขุดแค่ 8 หลุม” อดีตนักโทษเขมรแดง เผย
พยานโจทก์ยังให้การถึงการทรมานนักโทษของทหารเขมรแดง ที่รวมทั้งการทรมานผู้หญิงรายหนึ่งด้วยคีมเหล็ก และกรดซัลฟิวริก
“เธอกรีดร้องขณะที่นักโทษคนอื่นๆ อีก 10 คน ถูกสั่งให้นั่งดูการทรมาน” แก้ว จันดารา กล่าว
เมื่อศาลกลับมาดำเนินการพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อีกครั้งเมื่อเดือนก่อน พยานฝ่ายโจทก์คนแรกให้การต่อผู้พิพากษาว่า ทหารเขมรแดงบั่นคอนักโทษหลายร้อยคนที่เรือนจำ และกินถุงน้ำดีของนักโทษเหล่านั้น
คดีที่ซับซ้อนต่อ นายนวน เจีย และนายเคียว สมพร ถูกแบ่งออกเป็นการพิจารณาย่อยๆ ตั้งแต่ปี 2554 เพื่อให้การตัดสินคดีดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจำเลยทั้งสองสูงอายุ และสุขภาพอ่อนแอมาก แต่ทั้งคู่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และกำลังยื่นอุทธรณ์โทษจำคุกตลอดชีวิต.