เอเอฟพี - พยานขึ้นให้การต่อศาลเขมรแดงวันนี้ (21) ว่า ทหารเขมรแดงเฉือนคอนักโทษ และกินถุงน้ำดีของนักโทษในช่วงทศวรรษ 1970 ระหว่างการพิจารณาคดีกับ 2 อดีตแกนนำเขมรแดงที่ยังมีชีวิตอยู่
นวน เจีน อายุ 88 ปี ที่รู้จักในชื่อสหายหมายเลข 2 และเคียว สมพร อายุ 83 ปี อดีตประธานแห่งรัฐ ถูกตั้งข้อหาสังหารชาวเวียดนาม และชนกลุ่มน้อยมุสลิมชาวจาม บังคับแต่งงาน และข่มขืน ระหว่างการปกครองในปี 2518-2522 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2 ล้านคน
ในเดือน ส.ค.2557 ทั้งคู่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หลังการพิจารณาคดีนาน 2 ปี ที่มุ่งประเด็นการบังคับอพยพชาวกัมพูชาออกจากกรุงพนมเปญไปยังค่ายแรงงานในชนบท และสังหารผู้คน
การพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค.2557 ต้องล่าช้าออกไปหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากการคว่ำบาตรของทนายฝ่ายจำเลย และส่วนใหญ่จากการเข้ารักษาตัวของนายเคียว สมพร
เคียว สมพร มีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะเข้ารับฟังการพิจารณาคดีในวันนี้พร้อมกับทีมทนาย ขณะที่นายนวน เจีย เข้าร่วมกระบวนการศาลจากห้องควบคุมตัวเนื่องจากมีอาการเวียนศีรษะ
เมียส สุขา พยานคนแรกของการฟ้องคดีอาญาขึ้นให้การต่อศาลว่า เขาเห็นทหารเขมรแดงฆ่านักโทษหลายร้อยคนที่เรือนจำ ใน จ.ตาแก้ว ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางใต้ราว 80 กม. ที่ที่เขาถูกควบคุมตัวพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวอีก 11 คน
“ตอนที่ผมกำลังดูแลวัวควาย ผมเห็นวิธีที่นักโทษถูกฆ่า พวกเขาส่วนใหญ่ถูกปาดคอ” ชายวัย 55 ปี กล่าว
“ผู้คุมเขมรแดง 2 คน จะจับตัวนักโทษไว้แน่น และอีกคนจะเข้าเฉือนคอนักโทษรายนั้น” เมียส สุขา กล่าว และว่า เขมรแดงจะเล่นดนตรีผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อกลบเสียงการสังหารนักโทษ ในแต่ละวันจะมีนักโทษอย่างน้อย 20 คน ถูกฆ่าที่เรือนจำ ที่เขาถูกควบคุมตัวนานกว่า 2 ปี ตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งพ่อ และน้องของเขาเสียชีวิตที่เรือนจำแห่งนั้น
พยานยังระบุว่า ทหารจะฆ่าเด็กเล็กด้วยการเหวี่ยงเข้ากับต้นไม้ก่อนปล่อยร่างลงไปในหลุมศพหมู่ที่เรือนจำ ทหารเขมรแดงจะกินถุงน้ำดีของนักโทษที่ถูกสังหารหลังตากไว้จนแห้ง
“เมื่อไรก็ตามที่มีการฆ่า ผู้คุมจะดื่มไวน์กับถุงน้ำดี ผมรู้ว่าถุงน้ำดีพวกนี้มาจากมนุษย์ มีถุงน้ำดีมากมายตากแดดไว้ใกล้กับรั้ว” เมียส สุขา กล่าว
คดีที่ซับซ้อนของ นายนวน เจีย และเคียว สมพร ถูกแบ่งออกเป็นการพิจารณาคดีย่อยๆ ในปี 2554 ในความพยายามที่จะตัดสินคดีให้รวดเร็วขึ้นต่อจำเลยทั้งคู่ ที่สูงอายุ และอ่อนแอมาก
จำเลยทั้ง 2 คนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และกำลังร้องอุทธรณ์คำตัดสิน.