เอเอฟพี- วานนี้ (6 ต.ค.) กองกำลังของรัฐบาลกลางเม็กซิโกได้ปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในเมืองแห่งหนึ่ง ทางตอนใต้ของประเทศ และรับหน้าที่รักษาความมั่นคงในพื้นที่ดังกล่าวแทน ภายหลังมีการกล่าวหาว่า ตำรวจสมรู้ร่วมคิดกับขบวนการอาชญากรรมในการก่อเหตุรุนแรงในเมืองดังกล่าว จนทำให้มีนักศึกษาสูญหายไป 43 ชีวิต
คำสั่งส่งทหารประจำการในเมืองอิกัวลา ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตี ไปทางใต้ 200 กิโลเมตร มีขึ้นภายหลังที่ประธานาธิบดี เอ็นริเก เปนา เนียโต ได้ให้สัญญาว่า จะให้ความยุติธรรมในคดีนี้ ซึ่งเป็นปัญหาท้าทายที่ผู้นำแดนจังโก้ต้องเผชิญ หลังเคยให้คำมั่นจะระงับการก่ออาชญากรรมในเม็กซิโก
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานได้ตรวจพบหลุมศพหมู่บนเนินเขานอกเมืองอิกัวลา ซึ่งภายในมีร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด 28 ศพ จนจุดชนวนให้เกิดความหวั่นวิตกถึงชะตากรรมของกลุ่มนักศึกษา ที่มีผู้พบเห็นเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่เมืองอิกัวลา
เจ้าพนักงานกล่าวว่า ขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ของศพเหล่านี้จะใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยร่างผู้เสียชีวิตบางส่วนแหลกเป็นชิ้นๆ เนื่องจากถูกสุมไฟเผาพร้อมกับกิ่งไม้
บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีนักศึกษาหลายคน ซึ่งเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยครูที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์การประท้วงอันรุนแรงแข็งกร้าว ถูกตำรวจพาขึ้นรถหายไปตั้งแต่คืนวันที่ 26 กันยายน ภายหลังเจ้าหน้าที่เปิดฉากกราดยิงรถบัสที่วัยรุ่นกลุ่มนี้ยึดขับกลับบ้าน
อัยการกล่าวว่า แก๊งค้ายาเสพติด “เกร์เรโร อูนิโดส” ก็ได้ร่วมก่อเหตุรุนแรงในคืนนั้น ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไป 6 ราย บาดเจ็บ 25 ราย และสูญหาย 43 คน
เจ้าพนักงานระบุว่า นักฆ่า 2 คนรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือสังหารนักศึกษา 17 คนในหมู่นักศึกษาที่หายไปทั้งหมด 43 คน พร้อมทั้งเผยว่า พวกเขาได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจคนหนึ่งให้รุดไปยังที่เกิดเหตุกราดยิง ขณะที่หัวหน้าขบวนการค้ายาเป็นผู้สั่งการให้พวกเขาสังหารนักศึกษา
รัฐบาลเม็กซิโกแถลงว่า ได้ส่งตำรวจรัฐบาลกลางหน่วยใหม่ และกำลังรบกึ่งทหารเข้ารักษาความมั่นคงในเมืองอิกัวลาวานนี้ (6)
ภายหลังสิ้นเสียงประกาศของรัฐบาลกลางเม็กซิโก ขบวนรถทหารก็เคลื่อนพลลงเมืองอิกัวลา ในรัฐเกร์เรโร และมีการตั้งด่านตรวจหลายจุด