เอเอฟพี - อัยการแดนจังโก้ระบุวานนี้ (5 ต.ค.) ว่า สองนักฆ่าที่มีความเชื่อมโยงกับตำรวจยอมรับว่าเป็นผู้สังหารนักศึกษา 17 คนในหมู่นักศึกษาที่หายตัวไปทั้งหมด 43 ชีวิต ท่ามกลางกระแสตื่นกลัวว่านักศึกษาที่สูญหายไปจากภาคใต้ของเม็กซิโกกลุ่มนี้อาจกลายเป็นศพในหลุมฝังศพหมู่
อินากี บล็องโก หัวหน้าอัยการรัฐเกร์เรโร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุรุนแรงอยู่บ่อยครั้งกล่าวว่า ขั้นตอนการพิสูจน์อัตลักษณ์ร่างผู้เสียชีวิต 28 ร่างที่พบในหลุมศพลับจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน โดยศพบางส่วนมีสภาพไหม้เกรียม และแหลกกลายเป็นชิ้นๆ
เมื่อวันเสาร์ (4) เจ้าหน้าที่พบหลุมศพแห่งนี้ในปวยโบลเบียโค เขตยากจนของเมืองอิกัวลา ซึ่งอยุ่ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีไปทางใต้ราว 200 กิโลเมตร และเป็นจุดที่มีผู้พบเห็นกลุ่มนักศึกษาที่หายตัวไปเป็นครั้งสุดท้ายในคืนวันที่ 26 กันยายน
บล็องโกกล่าวว่า “มีการนำกิ่งไม้และท่อนไม้ปูรองไว้ใต้ร่างผู้เสียชีวิต และตรวจพบวัตถุไวไฟ”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักศึกษาจากวิทยาลัยครูกลุ่มนี้หายตัวไป หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองอิกัวลากราดยิงรถบัสที่นักศึกษากลุ่มนี้โดยสารเดินทางกลับบ้าน และบล็องโกกล่าวว่า องค์การอาชญากรรม “เกร์เรโรส อูนิโดส” มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย บาดเจ็บ 25 ราย และสูญหาย 43 คนครั้งนั้นด้วย
แม้ว่านักศึกษากลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่า “จี้รถบัส” แต่บล็องโกก็ระบุว่ายังอยู่ระหว่างสืบสวนแรงจูงใจในการก่อเหตุคราวนี้
หากนักศึกษาที่หายไปกลายเป็นศพในหลุมเหล่านี้จริง คดีนี้จะกลายเป็นการสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในเม็กซิโก นับตั้งแต่สงครามยาเสพติดทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อปี 2006 จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 80,000 คนนับตั้งแต่นั้นมา และเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่สุดนับตั้งแต่ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปนา เนียโต ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำเม็กซิโกเมื่อปี 2012
เมื่อวันอาทิตย์ (2) ผู้ปกครองบางส่วน และเพื่อนของนักศึกษาวิทยาลัยครูที่หายไปได้รวมตัวกันหลายร้อยคนเพื่อปิดทางหลวงสาย ชิลปันซิงโก (เมืองเอกของรัฐเกร์เรโร) - อกาปุลโก และแสดงความโกรธแค้นต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
พ่อแม่ผู้ปกครองบางส่วนกล่าวว่า พวกเขาได้เห็นภาพถ่ายร่างผู้เสียชีวิตแล้ว แต่ไม่เชื่อว่า ศพเหล่านี้ดูเหมือนลูกหลานของพวกเขา
เหล่าผู้รอดชีวิตกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า นักศึกษากลุ่มนี้เดินทางไปเมืองอิกัวลาเพื่อจัดกิจกรรมระดมทุน และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกราดยิง ภายหลังที่พวกเขาขึ้นรถบัส 3 คัน เป็นผลให้มีนักศึกษาเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 3 คน
นอกจากนี้ในคืนเดียวกัน นักศึกษาอีก 3 คนเสียชีวิตในเหตุโจมตีรถบัสนักฟุตบอลนอกเมืองอิกัวลา บล็องโกเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสมาชิกขบวนการอาชญากรรมมีเอี่ยวในการก่อเหตุกราดยิงทั้งสองครั้ง
บรรดาผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีนักศึกษาหลายคน จากวิทยาลัยครูใกล้เมือง ชิลปันซิงโก ซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของการรวมตัวประท้วงของพวกหัวรุนแรง ถูกตำรวจนำตัวขึ้นรถไป
บล็องโกชี้ว่า ฟรังซิสโก ซัลกาโด วายาดาเรส ผู้อำนวยการความมั่นคงของรัฐเป็นผู้สั่งการให้สมาชิกแก๊งอาชญากรทั้งสองคนรุดไปยังรถบัสของนักศึกษากลุ่มนี้
เขากล่าวว่า มือสังหารทั้งสองคนได้รับคำสั่งให้อุ้มฆ่านักศึกษา มาจากหัวหน้าแก๊ง เกร์เรโรส อูนิโดส ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “เอล ชัคกี”
บล็องโกระบุว่า แก๊งอาชญากรกลุ่มนี้ได้ลากคอนักศึกษาลงจากรถบัส “พวกเขาพานักศึกษาไป 17 คนไปบนเนินเขาในเขตปวยโบลเบียโคที่มีหลุมศพลับ และพวกเขาเล่าว่า สังหารนักศึกษากลุ่มนี้ที่นั่น”
ทั้งนี้ บล็องโกกล่าวว่า หลุมศพเหล่านี้ถูกค้นพบ ผู้ต้องสงสัยบางส่วนในคดีนี้จากที่ถูกจับกุมทั้งหมด 30 คนแจ้งที่ตั้งหลุมศพให้เจ้าพนักงาน ทั้งนี้ในหมู่ผู้ถูกจับกุมมี 22 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสมาชิกขบวนการอาชญากรรม