เอเอฟพี - ความตายของญาติมากถึง 46 คน ภายใต้การปกครองของเขมรแดง คอยหลอกหลอน เอือง สีมุนาวี มานานหลายทศวรรษ เธอเฝ้าหวังว่าจะได้พบกับสิ่งที่ช่วยบรรเทาทุกข์ในสัปดาห์นี้ เมื่อศาลที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนของกัมพูชาจะมีคำพิพากษาตัดสินโทษต่อ 2 อดีตแกนนำเขมรแดงเป็นครั้งแรก
นวน เจีย “สหายหมายเลข 2” และเคียว สมพร อดีตประธานแห่งรัฐ จะได้พบกับชะตากรรมในวันพฤหัสบดี (7) จากบทบาทหน้าที่ในช่วงการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์อันโหดร้าย
ในเดือน เม.ย.2518 ชาวกัมพูชาราว 2 ล้านคน ถูกบังคับให้ออกจากที่อยู่อาศัยของตัวเองในกรุงพนมเปญ และไปทำงานในค่ายแรงงานชนบท อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะสร้างสังคมอุดมคติแบบเกษตรกรรม และหนึ่งในนั้นคือ เอือง สีมุนาวี แม้เธอจะรอดชีวิตจากการเป็นแรงงานกลางทุ่งนานเกือบ 4 ปี แต่สมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่กลับถูกสังหาร หรือไม่ก็อดอาหารจนเสียชีวิต
“พวกเขา (เขมรแดง) ทุบตีป้าด้วยกิ่งไม้ต่อหน้าฉัน ส่วนปู่ย่าเสียชีวิตเพราะความอดอยาก” หญิงวัย 53 ปี กล่าวทั้งน้ำตา
เช่นเดียวกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ จากยุคทุ่งสังหาร เธอรอคอยความยุติธรรมที่ล่าช้ามาเป็นเวลานานจากคำตัดสินที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
นวน เจีย อายุ 88 ปี และ เคียว สมพร อายุ 83 ปี ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทสำคัญในการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ระหว่างปี 1975-1979 อันเป็นช่วงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 2 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมดของประเทศ
อัยการพยายามเรียกร้องให้ตัดสินโทษด้วยการจำคุกตลอดชีวิตต่อคนทั้งคู่ แต่ระหว่างการพิจารณาคดีนาน 2 ปี ที่สิ้นสุดลงเมื่อปีก่อน จำเลยทั้งสองคนยืนยันว่า พวกเขาไม่ทราบการกระทำทางอาญาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
“พวกเขาพูดได้ยังไงว่าไม่รู้เรื่องอาชญากรรมที่เกิดขึ้น เราเฝ้ารอความยุติธรรมกันมายาวนาน พวกเขาต้องใช้ชีวิตในคุกจนกว่าพวกเขาจะหมดลม” เอือง สีมุนาวี กล่าว
คดีที่ซับซ้อนของอดีตแกนนำเขมรแดงถูกแบ่งพิจารณาออกเป็นคดีย่อยๆ โดยเบื้องต้นมุ่งเน้นที่การบังคับอพยพประชาชนไปยังค่ายแรงงาน และข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอื่นๆ
โพช โสพอน อายุได้เพียง 12 ปี เมื่อครั้งที่ทหารเขมรแดงเข้ามาในบ้านพัก และสั่งให้ครอบครัวของเขาทั้งหมดออกจากบ้านหลังนั้น
“ผมต้องกินหนู แมว กบ จิ้งเหลน แมลงสาบ เรากินทุกอย่างเพื่อให้มีชีวิตอยู่” โพช โสพอนกล่าวถึงช่วงเวลาที่อยู่ในค่ายแรงงาน
โพช สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปทั้งหมด 5 คน รวมทั้งพ่อของเขา ภายใต้ยุคเขมรแดง เขาเป็นหนึ่งในชาวกัมพูชาอีก 900 คน ที่คาดว่าจะเข้าไปฟังการตัดสินคดีในศาล ขณะที่ประชาชนอีกหลายล้านคนรับชมรับฟังผ่านทางโทรทัศน์ และวิทยุ
“นับเป็นครั้งแรกที่คนในตำแหน่งระดับผู้นำของเขมรแดงจะถูกศาลตัดสิน” ลาร์ส โอลเซ่น โฆษกศาล กล่าว
การพิจารณาคดีถูกมองว่าเป็นโอกาสของการปรองดอง และกุญแจสำคัญของความหวังสำหรับความยุติธรรมหลังเฝ้ารอกันมานานกว่า 35 ปี
ผู้สังเกตการณ์ และเหยื่อเขมรแดงหลายคนวิตกกันว่า แกนนำเขมรแดงสูงอายุเหล่านี้อาจไม่อยู่รอดจนกระทั่งได้รับโทษหากพบว่ามีความผิด
เอียง สารี อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเขมรแดง เสียชีวิตขณะอายุ 87 ปี เมื่อปีก่อน ระหว่างการพิจารณาคดี ส่วนนางเอียง ธิริธ ผู้เป็นภรรยา ถูกปล่อยตัวในเดือน ก.ย.2555 หลังศาลตัดสินว่านางธิริธ มีอาการป่วยทางจิตไม่สามารถรับการพิจารณาคดีได้
เมื่อสัปดาห์ก่อน นวน เจีย และเคียว สมพร เริ่มเข้ารับการพิจารณาคดีครั้งที่ 2 ที่ศาล ในข้อหาที่รวมทั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเวียดนาม และชาวมุสลิม และการบังคับแต่งงาน และข่มขืน.