ASTVผู้จัดการออนไลน์ - คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ ได้ทำรายงานฉบับหนึ่งถึงคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจรัฐสภา ที่กำลังประชุมในกรุงฮานอยขณะนี้ สรุปว่าทางการนครได้ตัดสินเลิกล้มแผนการขยายท่าอากาศยานเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) แล้ว ด้วยเหตุผลหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ จะทำให้ต้องเวนคืนที่ดินอีกหลายพันไร่ กระทบถึงราษฎรกว่า 100,000 ครอบครัว ซึ่งจะต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นเงินมหาศาล และพาไปตั้งถิ่นฐานในที่แห่งใหม่นอกเมือง นอกจากนั้น การขยายสนามบินพาณิชย์ที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในภาคใต้ จะส่งผลกระทบทำให้เกิดการจราจรติดขัดหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากสนามบินตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง
การตัดสินใจของทางการนนครโฮจิมินห์ ได้ทำให้รัฐบาลเหลือทางเลือกเพียงทางเดียวคือ เดินหน้าอย่างเต็มที่ โครงการก่อสร้างสนามบินยักษ์ในท้องที่ อ.ลองแถ่ง (Long Thanh) จ.โด่งนาย (Dong Nai) ที่อยู่ห่างออกไปราว 32 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโฮจิมินห์ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศ แทนสนามบินเตินเซินเญิ๊ต
มีนักวิชาการหลายกลุ่มที่มีความเห็นไม่ลงรอยต่อโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ โดยให้เหตุผลว่า จะต้องใช้เงินลงทุนอย่างมหาศาล ในขณะที่เวียดนามต้องการเงินลงทุนอีกมหาศาลเช่นกัน เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ และก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานอีกมากมายหลายโครงการ ซึ่งทำให้แผนการก่อสร้างสนามบินลองแถ่ง ถูกโต้แย้งตลอดเวลากว่า 20 ปีมานี้ แต่ตัวเลขในรายงานล่าสุดนี้ ได้ช่วยตอบคำถามของทุกฝ่าย คือ สร้างสนามบินแห่งใหม่ ลงทุนน้อยกว่าขยายสนามบินนานาชาติโฮจิมินห์
สนามบินเตินเซินเญิ๊ต มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,500 เฮกตาร์ (9,375 ไร่) ในนั้นมีเพียง 590.45 เฮกตาร์ (3,690.5 ไร่) ที่เป็นพื้นที่สำหรับสนามบินพาณิชย์ของพลเรือน ที่เหลือเป็นของสนามบินกองทัพอากาศ และเป็นที่ตั้งของการท่าอากาศยานภาคใต้ ที่กำกับดูแลการสัญจรทางอากาศทั้งภูมิภาค สนามบินแห่งนี้สามารถรับผู้โดยได้ราว 20 ล้านคนต่อปี การสัญจรเข้าและออกตัวเมืองไม่สะดวก และติดขัดตลอดเวลา แม้ว่าจะแก้ไขโดยจัดระเบียบให้เป็นทางวันเวย์ทั้งหมดแล้วก็ตาม ทั้งนี้ เมื่อ 40 ปีที่แล้ว สนามบินตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 8 กม. แต่ปัจจุบัน ตัวเมืองได้ขยายออกไปโอบล้อมท่าอากาศยานแห่งนี้
รายงานระบุด้วยว่า แผนการของรัฐบาลที่จะขยายสนามบินนครโฮจิมินห์ให้สามารถรองรับผู้่โดยสารได้ 50 ล้านคนต่อปีนั้น จำเป็นจะต้องขยายพื้นที่ออกไปทางทิศเหนืออีก 641 เฮกตาร์ (4,000 ไร่เศษ) ซึ่งจะต้องโยกย้ายราษฎรกว่า 140,000 ครัวเรือน ออกไปตังถิ่นฐานในที่แห่งใหม่ ซึ่งทางการนครไม่อาจจะหาที่ดินมากมายขนาดนั้นได้ และยังจะต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นเงินอีกมหาศาลตามราคาที่ดินที่พุ่งขึ้นสูงลิ่วในช่วงหลายปีมานี้
ตามแผนการดั้งเดิมนั้น การขยายสนามบินเตินเซินเญิ๊ต จะใช้เงินลงทุนราว 9.152 แสนล้านด่ง (ราว 13,946 ล้าบาท) รวมทั้งค่าเวนคืนที่ดิน และงานสางหน้าดินด้วย แต่ทางการนครระบุในรายงานว่า ถ้าหากต้องจ่ายค่าเวนคืนที่ดินตามมูลค่าจริงในตลาดปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะสูงกว่ามูลค่าก่อสร้างสนามบินที่ประมาณเอาไว้ทั้งหมด นอกจากนั้น การขยายสนามบินออกไปยังจะทำให้การจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะมีระบบแอร์พอร์ตลิงก์ หรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันตัวเมืองได้โอบล้อมสนามบินเอาไว้ทุกทิศทุกทาง รอบๆ สนามบินเป็นชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น การศึกษายังพบว่า การขยายสนามบินจะทำให้เกิดปัญหามลพิษติดตามมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมลพิษทางเสียง ซึ่งจะเกินเลยมาตรฐานสำหรับชุมชนเมือง
“ดังนั้น การขยายสนามบินเตินเซินเญิ๊ต จึงไม่สอดคล้องต่อแผนพัฒนาตัวเมืองภายในปี 2025 ที่ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งที่ 24/QD-TTG ลงวันที่ 1 มิ.ย.2553” หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ ซึ่งตีพิมพ์ในนครโฮจิมินห์ รายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวด้วยว่า ตามแผนการเดิมนั้น การขยายสนามบินเตินเซินเญิ๊ต จะต้องแล้วเสร็จภายในปี 2560 แต่ในความเป็นจริง การสัญจรทางอากาศที่ท่าอากาศยานแห่งนี้เกิดการติดขัดมาหลายปีแล้ว ในขณะที่การก่อสร้างสนามบินลองแถ่งในเฟสที่ 1 มีกำหนดแล้วเสร็จ และเปิดใช้ในปี 2566 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า
“จะเห็นได้ว่าในระยะเวลา 6 ปี ระหว่างปี 2560-2566 ท่าอากาศยานนครโฮจิมินห์ จะแออัดคับคั่งแบบเต็มอัตรา ซึ่งจะส่งผลฃกระทบอย่างรุนแรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศโดยรวม คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงขนส่ง พิจารณาทบทวนและดัดแปลงแก้ไข เพื่อทำให้สนามบินลองแถ่ง เปิดใช้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม” เตื่อยแจ๋รายงานเนื้อหาสำคัญในตอนหนึ่ง
รายงานของคณะกรรมการประชาชนโฮจิมินห์ ยังกล่าวถึงแผนการศึกษาเพื่อก่อสร้างการขนส่งระบบราง เป็นรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดเบาสายใหม่ที่เชื่อม อ.ถูเทียม (Thu Thiem) ของโฮจิมินห์กับ อ.ลองแถ่ง ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของการจราจรลงอีกทางหนึ่งด้วย นอกเหนือจากไฮเวย์สายหนึ่งที่กำลังก่อสร้างในขณะนี้
ต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทการท่าอากาศยานเวียดนาม (ACV) ได้ยื่นแผนการลงทุนการก่อสร้างสนามบินลองแถ่ง เป็นมูลค่า 7,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 250,000 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรก มีมูลค่า 5,660 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย การก่อสร้างรันเวย์ และอาคารผู้โดยสารที่รองรอบผู้โดยสารได้ 17 ล้านคนต่อปี เพื่อลดภาระของสนามบินนครโฮจิมินห์ลง ส่วนการลงทุนช่วงที่ 2 จะเริ่มในปี 2566 ให้รองรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคน ภายในปี 2568
สนามบินลองแถ่ง ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นฐานทัพอากาศใหญ่ของกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม ยังมีแผนการลงทุนระยะยาวเพื่อขยายออกไปอีก ให้รองรับผู้โดยสารได้ 45-50 ล้านคนต่อปี.