xs
xsm
sm
md
lg

ไทย-เวียดนามจุกคอ ข้าวเขมรผงาดแย่งตลาดใหญ่ฟิลิปปินส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ชาวนาฟิลิปปินส์ใช้เกวียนเทียมควายขนข้าวที่เกี่ยวเสร็จหมาดๆ บรรจุในกระสอบจากท้องนาเข้าไปเก็บยังหมู่บ้าน ใน อ.ปูลิลาน จ.บูลากัน ทางทิศเหนือกรุงมะนิลาในภาพวันที่ 16 มี.ค.2555 ปีไหนไม่มีภัยธรรมชาติทำลายเสียหายฟิลิปปินส์ก็จะนำเข้าข้าวน้อยลง แต่ถ้าหากปีไหนภัยพิบัติรุนแรงก็จะนำเข้ามากขึ้นเป็นเงาซึ่งอยู่ระหว่าง 1-2.4 ล้านตันต่อปี แต่ปีนี้มีข้าวกัมพูชาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง. --  Reuters/Romeo Ranoco. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เวียดนามกับไทยไม่ได้เป็นเพียง 2 ประเทศที่เข้าร่วมการประมูลขายข้าวระบบจีทูจี หรือรัฐบาลให้แก่รัฐบาลกับฟิลิปปินส์ แต่ปีนี้กัมพูชาได้เข้าเป็นฝ่ายที่ 3 อย่างเต็มตัวซึ่งจะทำให้ 2 ยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออกข้าวของโลกลำบากมากยิ่งขึ้นในช่วงปีที่ตลาดข้าวปั่นป่วน และราคาไม่แน่นอนเช่นในขณะนี้ สื่อของทางการเวียดนามรายงาน

ปีนี้ กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ตั้งเป้าหมายนำเข้าข้าวราว 1 ล้านตันด้วยการซื้อขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G-TO-G) คือไม่ผ่านคนกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์ประกาศนำเข้า 800,000 ตันแรก เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านอาหารในประเทศ ซึ่งหมายถึงการรักษาระดับราคาในตลาดรวมทั้งมีเก็บในสตUอกตามปริมาณที่กำหนด

ปีที่แล้ว เขตอู่ข้าวในภาคกลางของประเทศถูกไต้ฝุ่นไห่แย่นทำลายเสียหายยับเยิน ทำให้ฟิลิปปินส์ต้องเพิ่มการนำเข้าหลายแสนตันในช่วงปลายปีเพื่อสร้างความมั่นคงด้านเสบียงอาหาร

ข้าว 800,000 ตัน รวมอยู่ในเป้าหมาย 1 ล้านตันสำหรับปีนี้ องค์การอาหารแห่งชาติฟิลิปปินส์ (National Food Authority Philippines) หรือ NFA กำลังจะออกข้อกำหนดกับรายละเอียดต่างๆ สำหรับการนำเข้า หลังจากทราบผลการเก็บเกี่ยวข้าวฤดูร้อนทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม NFA พิจารณาปรับยอดการนำเข้าข้าวกับอาหารชนิดอื่นๆ เป็นระยะตามสภาพความต้องการที่เป็นจริงในประเทศ หลายปีมานี้ ฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลกเพื่อให้เพียงพอเลี้ยงดูประชากร 100 ล้านคน ในขณะพื้นที่ทำนาข้าวในประเทศมีจำกัด

ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์มีความตกลงเกี่ยวกับการซื้อข้าวกับรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศคือ กัมพูชา ไทย และเวียดนาม และผู้ส่งออกจะต้องแข่งขันกันในด้านราคาซึ่งก็ปรากฏอย่างชัดเจนว่าข้าวของกัมพูชาขายได้ราคาต่ำที่สุด เพราะต้นทุนการผลิตต่ำที่สุดในบรรดาคู่แข่ง

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เวียดนามส่งออกข้าวได้อีก 333,000 ตัน มูลค่า 154 ล้านดอลลาร์ ทำให้ปริมาณส่งออกสองเดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 702,000 ตัน รวมมูลค่า 330 ล้านดอลลาร์

ในเดือน ม.ค.ฟิลิปปินส์ซื้อข้าวจากเวียดนามเพิ่มขึ้น 8.8 เท่าตัวในเชิงปริมาณ และ 9.5 เท่าตัวในเชิงมูลค่า เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 สำนักข่าวของทางการรายงานโดยไม่ได้ระบุตัวเลข แต่กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นตลาดข้าวใหญ่ที่สุดของเวียดนามในขณะนี้ โดยคิดเป็นประมาณ 53% ของการส่งออกทั้งหมด

ไม่เพียงแต่กัมพูชากำลังท้าชิงส่วนแบ่งตลาดข้าวฟิลิปปินส์เท่านั้น ปีนี้ยังสามารถเจาะทะลวงตลาดเกาหลี กับตลาดสหรัฐฯ ได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่ของกัมพูชากล่าวว่า องค์การค้าข้าวของรัฐบาลเพิ่งเซ็นความตกลงซื้อขายกับกลุ่มฮันหวา (Hanwha) ของเกาหลีเพื่อจำหน่ายข้าวที่ไม่ได้ระบุจำนวนให้ประเทศนั้น

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ผู้ค้าเวียดนามในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงออกกว้านซื้อข้าวเปลือกราคาถูกจากกัมพูชาแบบซื้อขายข้ามพรมแดน รวมทั้งแล่นเรือทั้งขึ้น-ล่องตามระบบลำคลองที่เชื่อมต่อเขตแดน 2 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมคุณภาพดีที่ขายได้ราคาดี วีเอ็นเอกล่าว

กัมพูชาอยู่ระหว่างดำเนินแผนการส่งออกข้าวให้ได้อย่างน้อยปีละ 1 ล้านตัน ภายในปี 2563 และสามารถส่งออกเพิ่มขึ้นทุกปีในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวว่า ปัจจุบันตลาดข้าวยุโรปเริ่มอิ่มตัวทำให้ต้องหันมามองตลาดใหญ่ใกล้ตัวซึ่งหมายถึงอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์.
กำลังโหลดความคิดเห็น