.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย. ปี้นี้ จีนได้นำเข้าข้าวจากเวียดนามแล้วประมาณ 2 ล้านตัน และคาดว่าตลอดทั้งปีจีนจะซื้อข้าวเวียดนามถึง 3 ล้านตัน ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายปีมานี้ ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมข้าวที่ค้าขายข้ามพรมแดนอีกหลายแสนตัน หนังสือพิมพ์ในนครโฮจิมินห์รายงานเรื่องนี้อ้างตัวเลขของทางการ
สมาคมอาหารเวียดนาม (Vietnam Food Association) ซึ่งเป็นองค์กรกึ่งเอกชนที่กำกับดูแลการส่งออกข้าวคาดว่า ในช่วงที่เหลืออยู่ของปีนี้ราคาข้าวในเขตที่ทราบปากแม่น้ำโขงจะกระเตื้องขึ้นเนื่องจากแรงหนุนซื้อจากพ่อค้าจีน ซึ่งที่ผ่านมา ได้เข้ากว้านซื้อถึงโรงสีในพื้นที่ ก่อนลำเลียงขึ้นเหนือ และส่งข้ามแดนเข้ามณฑลหยุนหนันกับมณฑลกว่างซี
หลายเดือนมานี้ มีการซื้อขายข้าวในลักษณะนี้กว่า 400,000 ตัน หนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนเตี๊ยบถิ (Sai Gon Tiep Thi) หรือ “ข่าวการตลาดไซ่ง่อน” รายงาน
นายเหวียนวินหญุต (Nguyen Van Nhut) ผู้อำนวยการบริษัทหว่างมีงเญิ๊ต (Hoang Minh Nhat) ในนครเกิ่นเทอ กล่าวกับ SGTT ว่า ตั้งแต่ต้นปีมานี้มี “พ่อค้าต่างชาติ” เข้าไปเช่าโกดังในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ออกซื้อข้าวตามโรงสี และ “บรรทุกข้าวส่งขึ้นเหนือ” ซึ่งมิใช่ใครอื่นหากเป็นพ่อค้าจากจีน
ปีนี้พ่อค้าชาวจีนเจาะจงซื้อข้าวผสมเมล็ดหัก 25% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพต่ำโดยเฉพาะ นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการค้าข้าวของประเทศ SGTT รายงานอ้างคำพูดของผู้ค้าข้าวชาวเวียดนามในท้องถิ่น
สมาคมอาหารเวียดนามกล่าวว่า ปีนี้การผลิตข้าวสาลีในจีนได้ผลผลิตลดลง ทำให้จีนต้องกักตุนข้าวเอาไว้สนองความต้องการที่จะมีสูงขึ้นในประเทศ ประกอบปีนี้ข้าวพม่ามีราคาสูงขึ้นทำให้จีนต้องหันไปหาข้าวเวียดนาม เป็นเหตุให้ข้าวในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงราคาขยับขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์มานี้
ผู้ค้าข้าวในพื้นที่กล่าวว่า การค้ากับจีนด้วยวิธีนี้ทำให้ง่ายเพราะว่าซื้อกันที่หน้าโรงสี หรือหน้าร้าน ไม่ต้องมีการเซ็นสัญญาเพราะเป็นวิธีซื้อมาขายไป ประหยัดเวลา ประหยัดค่าขนส่ง เนื่องจากผู้ซื้อจากจีนรับภาระด้านการขนส่งทั้งหมดจนถึงชายแดน ทำให้ไร้ความเสี่ยงถึงแม้ว่าจะเป็นการส่งออกข้าวที่ไม่ได้อยู่ในระบบก็ตาม
“เราขายจากหน้าร้านโดยตรงไม่ต้องเซ็นสัญญาอะไรทั้งสิ้น มีเพียงใบแจ้งความต้องการ พ่อค้าจีนรับผิดชอบเรื่องการเช่ารถบรรทุก และจัดการขนส่งไปเองทั้งหมด” ผู้อำนวยการบริษัทหว่างมีงเญิ๊ตกล่าว
ผู้ค้าข้าวในเวียดนามบ่นกันว่าการส่งออกข้าวอย่างเป็นทางการไปจีนมักจะมีปัญหาในเรื่องการโอนเงิน และการไม่เคารพสัญญา ฝ่ายนั้นมักจะบอกเลิกคำสั่งซื้อทันทีทันใดโดยไม่เอาใจใส่ต่อข้อความที่ตกลงกันเอาไว้ ทำให้เกิดความเสียหายบ่อยครั้ง และการดำเนินคดีต่อผู้นำเข้าชาวจีนในศาลจีนนั้น นับเป็นเรื่องยุ่งยากมาก และไม่มีทางประสบความสำเร็จ
ถึงแม้ในจีนจะยังไม่มีวี่แววว่าข้าวจะขาดแคลนก็ตาม แต่มีความเป็นไปได้ที่พ่อค้าจะซื้อข้าวราคาถูกจากเวียดนามอีกหลายแสนตัน เพื่อนำไปเก็บกักไว้ทำกำไรในช่วงปลายปีซึ่งในหลายมณฑลของจีนจะไม่สามารถทำนาข้าวได้ เจ้าหน้าที่ของ VFA กล่าว.
.