xs
xsm
sm
md
lg

คอมมิวนิสต์เวียดนาม ตั้งกรมการเมืองสำเร็จการศึกษาจากสหรัฐฯ คนแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ศ.ดร.เหวียนเทียนเญิน (Ngyen Thien Nhan) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีศึกษาธิการ ปราศรัยในพิธีเซ็นสัญญาการลงทุนของบริษัทอินเทลคอร์ป (Intel Corp) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ในนครโฮจิมินห์ปี 2552 วงในกล่าวกันว่า ดร.เญิน อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อันสำคัญนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมการรพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เลือก ดร.เญิน เข้าเป็นสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมือง นับเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากสหรัฐคนแรกที่ได้เข้าสู่องค์กรที่มีอำนาจสูงสุดของพรรค. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - การประชุมเต็มคณะของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามชุดปัจจุบัน ระหว่างวันที่ 1-11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญอย่างหนึ่งเกิดขึ้นคือ ที่ประชุมได้โหวตลงมติเลือกสมาชิกกรมการเมืองเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งในนั้น 1 คน เป็นดุษฎีบัณฑิต และเคยศึกษาในสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์ในรอบกว่า 60 ปีที่ผ่านมา ที่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสหรัฐฯ คนหนึ่งมีโอกาสขึ้นสู่องค์การอำนาจสูงสุดของพรรค

ศ.ดร.เหวียนเทียนเญิน (Nguyen Thien Nhan) รองนายกรัฐมนตรีฯ กับนางเหวียนถิกิมเงิน (Nguyen Thi Kim Ngan) รองประธานรัฐสภาคนที่ 2 ได้ทำให้คณะกรรมการกรมการเมืองมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 16 คน และเป็นสตรี 2 คน

ตามประวัติอย่างเป็นทางการ นางกิมเงิน เกิดวันที่ 12 เม.ย.2497 ที่ จ.เบ๊นแจ (Ben Tre) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง เป็นมหาบัณฑิตเศรษฐศาสตร์ สาขาสินเชื่อและการเงิน ได้รับเลือกเป็นรองประธานรัฐสภาคนที่ 2 หลังการเลือกตั้งต้นปี เมื่อปี 2554 อดีตเคยเป็นเลขาธิการพรรคสาขา จ.หายซเวือง (Hai Duong) เขตลงทุนอุตสาหกรรมอยู่ติดกรุงฮานอย เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และ รมช.กระทรวงพาณิชย์

ระหว่างดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงแรงงาน นางกิมเงิน ได้รับการยกย่องจากสื่อของทางการ ในเรื่องการตัดสินที่แม่นยำ และดำเนินการอย่างรวดเร็ว สามารถนำคนงานเวียดนามหลายหมื่นคนกลับจากลิเบียได้อย่างปลอดภัย ในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองในประเทศนั้น

ส่วน ดร.เหวียนเทียนเญิน เกิดวันที่ 12 มิ.ย. พ.ศ.2496 เป็นชาว จ.ก่ามาว (Ca Mau) ทางตอนใต้สุดของประเทศ เช่นเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung)

ตามประวัติอย่างเป็นทางการที่ตีพิมพ์ในเว็บไซต์รัฐบาลเวียดนาม ดร.เญิน เรียนสำเร็จปริญญามหาบัณฑิตเศรษฐศาสตร์ สาขาเศรษฐกิจแบบตลาด จากมหาวิทยาลัยเทคนิคแม็กเดบวร์ก (Technical University of Magdeburg) ในเยอรมนีตะวันออก และดุษฎีบัณฑิตสาขาไซเบอร์เนติก (cybernetics) จากสถาบันเดียวกัน

ในช่วงปี 2534-2538 ได้ไปศึกษาต่อคณะบริหารรัฐกิจ สาขาบริหารชุมนุมที่มหาวิทยาลัยโอเรกอน (University of Oregon) สหรัฐฯ จนสำเร็จระดับปริญญาโท และยังได้เข้าศึกษาอบรมสาขาการจัดการและบริหารการลงทุนที่มหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด

เคยเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันเทคนิคการทหาร กระทรวงกลาโหม มียศนายร้อยโท ต่อมา เป็นอาจารย์ ศาสตราจารย์ และเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งนครโฮจิมินห์ ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการประชาชนของนครใหญ่แห่งภาคใต้ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรม และเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคม
.
 <bR><FONT color=#000033>ในปี 2552 เช่นกัน ศ.ดร.เหวียนเทียนเญินได้ต้อนรับคณะเยือนจากบริษัทไมโครซอฟท์ และในเวลาต่อมาผู้ผลิตซอฟท์แวร์รายใหญ่ของโลกก็ได้เข้าลงทุนในเวียดนามและมีความร่วมมือมากมหายหลายโครงการกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ดร.เญินได้รับเลือกขึ้นสู่กรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์สัปดาห์ที่แล้ว เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากสหรัฐคนแรกที่ได้รับโอกาสนั้น. </b>
2
<bR><FONT color=#000033>มหาบัณฑิตสาขาเศรษฐกิจแบบตลาด ดุษฎีบัณฑิตสาขาไซเบอร์เนติกส์ จากเยอรมนีตจะวันออกในอดีต และยังเป็นมหาบัณฑิตสาขาพัฒนาชุมชนจากมหาวิทยาลัยโอเรกอนสหรัฐ ผ่านการฝึกอบรมบริหารการลงทุนจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ดร.เหวียนเทียนเญิน เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากสหรัฐคนแรกที่ได้ขึ้นสู่องค์กรอำนาจสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์. </b>
3
<bR><FONT color=#000033>เป็นชาวใต้โดยกำเนิดอีกคนหนึ่ง รองประธานรัฐสภา นางเหวียนถิกิมเงิน (Nguyen Thi Kim Ngan) เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับเลือกเข้าสู่กรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ ร่วมกับ ดร.เกวียนเทียนเญิน ซึ่งทำให้องค์การอำนาจสูงสุดของพรรคมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 16 คน. </b>
4
ดร.เญิน ได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางพรรคติดต่อกันมา 3 สมัย จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งเป็นผู้แทนราษฎรในรัฐสภามา 3 สมัยติดต่อกันเช่นเดียวกัน การได้รับเลือกเข้าสู่กรมการเมืองพรรค ทำให้เป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงภายองค์กรสูงสุดของพรรค ขณะที่ผู้นำคนอื่นๆ ล้วนผ่านการศึกษาอบรมจากกลุ่มประเทศสหภาพโซเวียตเมื่อก่อน

นายเญิน ขึ้นเป็นรัฐมนตรีศึกษาธิการฯ ในปี 2549 ก่อนจะควบตำแหน่งรองนายกฯ ในเดือน ส.ค.ปีถัดมา จนกระทั่งถึงปี 2553 ซึ่งระหว่างนั้นการศึกษาของประเทศอยู่ในยุคตกต่ำ ด้วยเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตการสอบของนักเรียนในทุกระดับชั้น รัฐมนตรีใหม่ได้ประกาศให้เป็น “เยียร์ซีโร่” ทางการศึกษา เริ่มรณรงค์การสร้างบุคลากรอันเป็นที่มาของแผนการผลิตมหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตที่เรียนจบจากต่างประเทศให้ได้ 20,000 คน ภายในปี 2563

ในปี 2553 ดร.เญิน ทำการปรับเงินเดือนครูทั่วประเทศขึ้นสู่ระดับที่ “อยู่ได้” ขณะเดียวกัน ก็ได้เริ่มนโยบายปฏิรูปการศึกษาชั้นสูงให้สถาบันอุดมศึกษามีอำนาจในการบริหารจัดการมากยิ่งขึ้น ในนั้นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่จะต้องสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองเป็นหลัก

ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ หรือรัฐมนตรีศึกษาธิการ-รองนายกฯ ดร.เญิน เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างดีในหมู่นักลงทุนชาวต่างชาติ และว่ากันว่า เป็นผู้มีบทบาทสำคัญมากในการดึงเอากลุ่มอินเทล (Intel Corp) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกเข้าลงทุนตั้งโรงงานผลิต ผลิตและทดสอบชิปในนครโฮจิมินห์ ในช่วงปี 2548-2549

หลายฝ่ายมองว่า การได้รับเลือกเข้าสู่กรมการเมืองครั้งนี้ทำให้ ดร.เญิน มีโอกาสอย่างสูงที่จะได้เข้าแทนที่นายกรัฐมนตีคนปัจจุบัน ที่ยังมีวาระอีกเพียง 3 ปีเศษ แต่อีกหลายฝ่ายก็กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่พรรคคอมมิวนิสต์มีความระมัดระวังอย่างสูง ต่อ “การเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ” เช่นที่เคยทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายมาแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น