xs
xsm
sm
md
lg

แถวนี้เรดาร์ไทยเจ๋งสุด ฝรั่งเชื่อจับโบอิ้ง 777 มาเลย์ชัดแจ๋วตลอดเส้นทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#00003>แผนภูมิที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันทางอากาศจัดทำขึ้นแสดงให้เห็นรัศมีตรวจการณ์ของระบบเรดาร์แจ้งเตือนระยะไกลของกองทัพไทยทั้ง 3 สถานีในภาคใต้มีระยะตรวจการณ์เหลื่อมกันเป็นตาสับปะรดและยังเหลื่อมเข้าไปในระยะตรวจการณ์ของเรดาร์แจ้งเตือนระยะไกลของมาเลเซียที่ตั้งอยู่บนเกาะปีนัง มาเลเซียกล่าวว่าสถานีเรดาร์แห่งนั้นตรวจจับโบอิ้ง 777 ลำที่สูญหายได้ ซึ่งพิกัดดังกล่าวอยู่ใกล้กับสถานีเรดาร์บนเกาะภูเก็ตของไทยมากกว่า หากพิจารณาจากระยะตรวจการณ์ของสถานีเรดาร์ที่กูเก็ตและสงขลาก็จะพบว่า เรดาร์ของไทยสามารถจับการเคลื่อนไหวของเที่ยวบิน MH370 ได้ตลอดเส้นทางเลยทีเดียว.  </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สำนักข่าวกลาโหมหลายแห่งได้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับระบบเรดาร์ที่ติดตั้งในภาคใต้ของไทยในภารกิจป้องกันประเทศ โดยเชื่อว่าข้อมูลที่ระบบเรดาร์ของไทยบันทึกเอาไว้จะช่วยไขความลี้ลับเกี่ยวกับเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777-200ER ลำที่สูญหายได้ เนื่องจากมีข่ายในการครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางที่สุด ละเอียดที่สุดในย่านนี้ และยังประสานกันเป็น “เสมือนตาสับปะรด” ยากที่วัตถุบินต่างๆ จะเล็ดลอดไปได้

เรดาร์ของไทยที่ติดตั้งใน 3 จุดทางตอนใต้ของประเทศย่อมสามารถบันทึกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายตั้งแต่ต้นจนกระทั่ง “ลับตา” ไป ซึ่งจะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับทิศทางบินของโบอิ้งลำนี้ได้ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการค้นหา แต่ปัญหาก็คือ กองทัพไทยจะยินดีเปิดข้อมูลเรดาร์ที่กล่าวถึงนี้หรือไม่ เพราะว่าการเปิดเผยย่อมหมายถึงการเปิดตัวเอง และค่อนข้างจะเป็นอันตรายต่อการป้องกันในอนาคต

จนถึงวันอังคาร 18 มี.ค.นี้ นับเป็นเวลา 10 วันพอดี ตั้งแต่เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียขาดการติดต่อกับสถานีควบคุมการสัญจรทางอากาศในตอนเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 8 ขณะที่บินอยู่เหนือทะเลอ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งไม่กี่วันมานี้ หลายฝ่ายได้วิจารณ์รัฐบาลมาเลเซียว่าปกปิดข้อเท็จจริง และให้ข้อมูลผิดๆ ซึ่งทำให้เสียเวลาค้นหาแบบหลงทิศหลงทางตลอดมา

อย่างไรก็ตาม หลายวันต่อมา ทางการมาเลเซียได้เปิดเผยข้อมูลจากเรดาร์ของฝ่ายทหารที่บ่งชี้ว่า โบอิ้ง 777 ที่บินขึ้นจากท่าอากาศยานกรุงกัวลาลัมเปอร์ พร้อมผู้โดยสารกับลูกเรือ 239 คน มุ่งสู่ท่าอากาศยานกรุงปักกิ่งของจีนนั้น ได้เปลี่ยนเส้นทางแบบหักข้อศอก บินข้ามแหลมมลายูไปยังบริเวณช่องแคบมะละกา ก่อนจะหักหัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดยังคงเป็นความลี้ลับ หรืออาจจะไม่มีข้อมูลอื่นใดนอกจากนี้ก็เป็นได้

เจ้าหน้าที่ของสายการบินมาเลเซียกล่าวว่า ถ้าหากมีการเปลี่ยนทิศทางบินดังกล่าวโบอิ้ง 777 ก็จะหมดเชื้อเพลิงลงในย่านอ่าวเบงกอล แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ยังไม่มีฝ่ายใดทราบเส้นทางบินอันแท้จริงของเที่ยวบิน MH370 หลังจากเรดาร์ของฝ่ายทหารมาเลเซียจับได้ขณะอยู่ไม่ไกลจากเกาะปีนัง

เรดาร์ของมาเลเซียที่ตั้งอยู่บนเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร ในปีนังสามารถจับภาพสุดท้ายของเที่ยวบิน MH370 เอาไว้ได้เมื่อเวลา 02.15 น.วันเสาร์ที่ 8 มี.ค.2557 ตามเวลาในท้องถิ่น ขณะบินในความสูง 29,500 ฟุต ห่างจากปีนังไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 200 ไมล์ทะเล (ราว 370 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่เที่ยวบิน MH370 ปรากฏให้เห็นในทางอิเล็กทรอนิกส์

เป็นที่ทราบกันดีว่า กองทัพมาเลเซียนั้นเป็นเรดาร์แจ้งเตือนระยะไกล RAT-31 DL ผลิตโดยบริษัท SELEX Sistemi Integrati ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Finmeccanica SpA กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการบินและการอวกาศในอิตาลี ที่มีผลงานมากมาย ข้อมูลจากแหล่งผลิตระบุว่า RAT-31DL มีระยะตรวจการณ์ไกลถึง 400 กม.
.
<bR><FONT color=#000033>เที่ยงคืนกับ 21 นาที (เช้าตรูวันเสาร์ 8 มี.ค.) เที่ยวบิน MH370 ขึ้นจากกัวลาลัมเปอร์ ต่อมา 01.21 น.ติดต่อสถานีภาคพื้นดินครั้งสุดท้ายก่อนหันหัวกลับโดยไม่ทราบสาเหตุ มุ่งสู่ช่องแคบมะละกา ก่อนจะเชิดขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือและเรดาร์บนเกาะปินังตรวจพบเมื่อเวลา 02.15 น. ขณะมุ่งหน้าไปยังบริเวณหมู่เกาะอันดามันของพม่า ยังไม่มีรายละเอียดอื่นใดอีกหลังจากนั้นแต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเรดาร์ของไทยมีคำตอบ. </b>
2
<bR><FONT color=#000033>รัศมีครอบคลุมของสถานีเรดาร์มาเลเซียบนเกาะปินังซึ่งอยู่บนยอดสูง 800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นเรดาร์แจ้งเตือนระยะไกลที่มีประสิทธิภาพสูงทีเดียว แต่ยังแพ้ทางระบบเรดาร์ของไทย 2 สถานีที่ประสานกันเป็นตาสับปะรด. </b>
3
<bR><FONT color=#000033>สถานีเรดาร์ของไทยใน จ.สงขลา ยุคสมัยเปลี่ยนไปทำให้ไม่มีความลับใดๆหลงเหลืออยู่อีก แต่การเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ย่อมเป็นการเปิดตัวเองให้อริมองเห็นมากยิ่งขึ้น. </b>
4
<bR><FONT color=#000033>สถานีเรดาร์ของไทยใน จ.สงขลา ยุคสมัยเปลี่ยนไปทำให้ไม่มีความลับใดๆหลงเหลืออยู่อีก แต่การเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ย่อมเป็นการเปิดตัวเองให้อริมองเห็นมากยิ่งขึ้น แต่กองทัพไทยยินดีที่จะคายข้อมูลลับหรือไม่? </b>
5
<bR><FONT color=#000033>เหนือขึ้นไปอีกเล็กน้อย ในภาคใต้ของไทยยังมีสถานีเรดาร์อีกแห่งหนึ่งที่เกาะสมุย คลุมน่านฟ้าเหนือทะเลอ่าวไทยได้ทั้งหมด. </b>
6
แต่พิกัดสุดท้ายที่เรดาร์มองเห็นเที่ยวบิน MH370 นั้นอยู่ห่างจากเกาะภูเก็ตของไทยไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เพียง 70 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 130 กม.เท่านั้น ซึ่งเป็นระยะทางที่เรดาร์ของไทยสามารถจับภาพได้อย่างชัดแจ๋ว เช่นเดียวกับอีก 2 สถานีที่อยู่ไกลออกไปใน จ.สงขลา และที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีระยะตรวจการณ์ครอบคลุมไปถึง (โปรดดูภาพที่ 1 ประกอบ)

การบินกลับทิศทางของโบอิ้ง 777 ไม่ว่าจะถูกจี้บังคับ หรือบินโดยความสมัครใจของนักบินเอง และไม่ว่าจะด้วยแรงจูงใจเช่นไร ย่อมจะไม่พ้นสายตาของเรดาร์กองทัพไทยอย่างแน่นอน เว็บไซต์เอเชียดีเฟ้นซ์ด็อทคอมกล่าว ซึ่งไม่ต่างกันกับความเห็นของนักวิเคราะห์ด้านกลาโหมอีกหลายคนในช่วง 2-3 วันมานี้

ต่างไปจากของกองทัพมาเลเซีย ระบบเรดาร์ของกองทัพไทยยังคงเป็นความลับไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยที่สุดแม้จะทราบกันดีว่าเป็นเรดาร์แจ้งเตือนระยะไกล AN/FPS-130X ที่ผลิตโดยบริษัทนอร์ธร็อบกรัมแมน (Northrop Grumman) แห่งสหรัฐฯ แต่ก็ไม่ทราบรุ่นที่กองทัพไทยเลือกใช้ และทราบกันแต่เพียงว่าทั้ง 3 สถานีรวมอยู่ในระบบป้องกันในภาคใต้ที่เรียกว่า RTADS (Royal Thai Air Defense System) เฟสที่ 3

เรดาร์ของไทยทั้งที่สงขลา และภูเก็ต และสมุย มีระยะตรวจการณ์ที่สามารถจับเหตุการณ์ได้ตลอดเส้นทางที่เที่ยวบิน MH370 บินผ่านตามข้อมูลของกองทัพมาเลเซีย เรดาร์ของไทยทั้ง 3 สถานีต่างครอบคลุมพื้นที่เหลื่อมกัน และยังเหลื่อมเข้าไปในเขตตรวจการณ์ของเรดาร์มาเลเซียด้วย (โปรดดูภาพที่ 3 ประกอบ) ซึ่งเป็นพิสัยที่สามารถจับความเคลื่อนไหวใดๆ ในอาณาบริเวณดังกล่าวได้ทั้งหมด

คำถามก็คือ กองทัพไทยยินดีที่จะเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้หรือไม่?
.

เรดาร์ AN FPS-130X ของกองทัพไทย


.

เรดาร์ Selex RAT31DLM กองทัพมาเลเซีย


กำลังโหลดความคิดเห็น