ASTVผู้จัดการออนไลน์ - การค้นหาเครื่องบินโดยสารสายการบินมาเลเซียลำที่สูญหาย ได้ทำให้เวียดนามตัดสินใจสั่งเรือบรรทุก-ขนส่งเรือดำน้ำลำที่ 2 ไม่ผ่านช่องแคบมะละกาตามกำหนด และให้เปลี่ยนเส้นทางลงใต้ไปผ่านช่องแคลบซุนดา (Sunda Strait) ระหว่างเกาะสุมาตรา และเกาะชวาของอินโดนีเซียแทน ก่อนจะวกขึ้นเหนือไปยังทะเลจีนใต้อีกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อหลบหนีสายตาของบรรดาเรือรบ-เครื่งบินตรวจการณ์ รวมทั้งเครื่องบินปราบเรือดำน้ำในช่องแคบใหญ่อันวุ่นวายในขณะนี้
ตามรายงานของเว็บไซต์ที่ติดตามการเดินเรือพาณิชย์ของโลก เรือโรลด็อกค์สตาร์ นำเรือดำน้ำนครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City, HQ-183) แล่นเข้าช่องแคบซุนดาเมื่อเวลา 23.31 น.คืนวันศุกร์ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา และยังคงกำหนดถึงปลายทางในเวียดนามในวันจันทร์ 17 มี.ค.นี้ ถึงแม้อาจจะต้องล่าช้าไปก็ตาม
ตามแผนการเดิมนั้น เรือโรลด็อกสตาร์ จะต้องแวะจอดบริเวณนอกท่าเรือสิงคโปร์เพื่อเติมเสบียงและน้ำจืด แต่เวียดนามต้องการให้เรือขนส่งสัญชาติเนเธอร์แลนด์ นำเรือดำน้ำนครโฮจิมินห์ออกไปจากบริเวณช่องแคบมะละกาอันวุ่นวายในขณะที่มีเรือรบกับเรือค้นหากว่า 10 ลำ ออกสำรวจหาชิ้นส่วนของโบอิ้ง 777-200ER ที่เชื่อว่าอาจจะตกลงในบริเวณช่องแคบมะละกา หรือทะเลอันดามัน
“บนท้องฟ้ายังมีเครื่องบินค้น และปราบเรือดำน้ำอีกหลายลำ ทั้งเครื่องบินสหรัฐฯ และเครื่องบินสิงคโปร์-มาเลเซีย ออกปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง” เวียดนามได้แจ้งให้เรือขนส่งนำเรือนครโฮจิมินห์ ลงใต้เพื่อป้องกันความสับสน หนังสือพิมพ์ออนไลร์อานนีงถูโด (An Ninh Thu Do) รายงาน
เรือได้อ้อมผ่านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินโดนีเซีย เข้าช่องแคบซุนดา ทะลุเข้าทะเลชวา (Java Sea) ก่อนจะวกขึ้นเหนือไปยังสิงคโปร์อีกครั้งหนึ่งเป็นระยะทางเพิ่มอีกหลายร้อยกิโลเมตร สื่อของทางการกล่าว
ตามแผนการเดิมนั้น เรือโรลด็อกสตาร์ จะต้องแล่นถึงบริเวณท่าเรือสิงคโปร์ในเวลาประมาณ 19.00 น. วันเดียวกัน อาจทำให้เดินทางถึงฐานทัพอ่าวกามแรง (Cam Ramh) ใน จ.แค้งฮวา (Khan Hoa) ช้ากว่ากำหนด อานนีงถูโดกล่าว.
.
2
3