ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สถานีโทรทัศน์กลางของจีนเผยแพร่ภาพดาวเทียม 3 ภาพในคืนวันพุธ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นภาพวัตถุขนาดใหญ่ลอยน้ำในอาณาบริเวณที่เข้าใจว่าเป็นเขตน่านน้ำสากล ห่างจากเขตค้นหาในน่านน้ำเวียดนามลงไปทางทิศใต้กว่า 100 กิโลเมตร นอกเขตทะเลอ่าวไทย ซึ่งอาจจะเป็นภาพแรกที่เปิดเผยความลี้ลับเกี่ยวกับโบอิ้ง 777-200ER สายการบินมาเลเซีย เที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายพร้อมผู้โดยสาร 239 คน หลังเวลาเที่ยงวันศุกร์ (เช้าตรู่วันเสาร์) ที่ผ่านมา ขณะมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่งของจีน จากกรุงกัวลาลัมเปอร์
ดาวเทียมที่ไม่ได้ระบุชื่อของจีนถ่ายภาพดังกล่าวเอาไว้ในเช้าวันอาทิตย์ 9 มี.ค. ในอาณาบริเวณที่ยังไม่เคยมีการค้นหา หลายฝ่ายยังคงเคลือบแคลงสังสัยในภาพถ่ายของจีน ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า ถ้าหากภาพนี้เป็นของจริงก็นับเป็นความกล้าหาญของจีนที่กล้าเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งโดยปกติมักจะปกปิดเป็นความลับทางทหาร และปกปิดเจตนารมณ์ในการใช้
อย่างไรก็ตาม บนเครื่องโบอิ้ง 777 ที่สูญหายเมื่อ 5 วันก่อนหน้านั้น มีผู้โดยสารจีนรวมอยู่ด้วยกว่า 150 คน เป็นจำนวนถึง 2 ใน 3 ของทั้งหมด และญาติพี่น้องสมาชิกครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังต้องเผชิญกับความกดดันอย่างหนัก หลังจากทางการมาเลเซียไม่สามารถให้คำตอบใดๆ ได้
ภาพและข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากฝ่ายสหรัฐฯ พล.ร.อ.แฮรี บี แฮริส ผู้บัญชาการกองกำลังแปซิฟิกสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า พร้อมที่จะส่งเรือพิฆาตเข้าสู่อาณาบริเวณดังกล่าวซึ่งการค้นหาจะง่ายขึ้น ในขณะที่อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศสหรัฐฯ คนหนึ่งให้สัมภาษณ์ในกรุงวอชิงตันดีซีว่า สหรัฐฯ ควรจัดส่งเครื่องบินค้นหา-ปราบเรือดำน้ำ P-8 “โพไซดอน” (Poseidon) เข้าพื้นที่เพื่อช่วยการค้นหา ถ้าหากมาเลเซียต้องการ
การค้นหาตลอด 5 วันที่ผ่านมา ด้วยความพยายามของหลายประเทศ รวมทั้งจีน และสหรัฐฯ ยังไม่พบร่องรอยใดๆ ของเครื่องบิน
ทางการมาเลเซียกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เที่ยวบิน MH370 ติดต่อกลับไปยังสถานีควบคุมฯ ที่เมืองสุบังครั้งสุดท้ายขณะบินอยู่ในรอยต่อเขตควบคุมการสัญจรทางอากาศมาเลเซีย กับเวียดนาม ซึ่งตรงกับรายงานของนายทหารเรือเวียดนามที่ระบุว่า ได้รับการติดต่อจากเที่ยวบินนี้ก่อนจะบินเข้าสู่เขตควบคุมฯ นครโฮจิมินห์ แต่เมื่อติดต่อกลับไปเพื่อแนะนำการเข้าสู่เขตของเวียดนาม ก็ไม่มีการตอบกลับอีก
การค้นหาที่ผ่านมาครอบคลุมพื้นที่ 35,800 ตารางไมล์ (92,600 ตารางกิโลเมตร) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะขยายออกไปทางฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย และมหาสมุทรอินเดีย แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่า ปฏิบัติการผ่านมาทั้งหมดตั้งอยู่บนข้อมูลที่ไม่แน่นอน และหลายครั้งมีความคลาดเคลื่อน
ฝ่ายทหารในมาเลเซียได้เปิดเผยให้ทราบเหตุผลที่ข่ายการค้นหาไปยังทิศทางตรงข้ามว่า เนื่องมาจากการตรวจข้อมูลเรดาร์ที่บ่งชี้ว่าโบอิ้งลำดังกล่าวอาจหันหัวกลับผ่านคาบสมทุรมลายูไปยังช่องแคบมะละกา แม้จะไม่ทราบสาเหตุ หรือแรงบันดาลใจในการกระทำดังกล่าวก็ตาม
.
.
พล.อ.รอดซาลี บิน ดาอูด ผู้บัญชาการทหารอากาศให้สัมภาษณ์ในวันพุธ ระบุว่า เรดาร์แสดงให้เห็นวัตถุที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไรเมื่อเวลา 02.15 น.วันเสาร์ (เวลาที่มาเลเซียกล่าวว่าเครื่องบินขาดการติดต่อ) อยู่ห่างจากเกาะปีนัง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 320 กม.
“ผมไม่ได้บอกว่าเป็นเที่ยวบิน MH370 เรายังคงร่วมกับฝ่ายอื่นๆ ในเรื่องนี้” สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างคำพูด ผบ.ทอ.มาเลเซีย
เปิดเผยภาพดาวเทียมของจีนจึงขัดแย้งกันแบบคนละทิศละทางกับข้อมูลล่าสุดของฝ่ายมาเลเซีย
แต่ในขณะเดียวกัน ในวันพุธเช่นกัน ทางการมาเลเซียได้เปิดเผยข้อมูลใหม่ที่ระบุว่า สถานีควบคุมฯ ได้รับการติดต่อจากกัปตันของเที่ยวบิน MH370 “อย่างเป็นวัตรปฏิบัติ” ด้วยคำว่า “ตกลง ราตรีสวัสดิ์” ก่อนจะปิดการติดต่อ แต่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า การติดต่อมีขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังอยู่ในตำแหน่งใด - อ่าวไทย ทะเลจีนใต้ หรือในทะเลอันดามัน
การค้นหาของนานาชาติหลายวันก่อนได้เน้นไปยังอาณาบริเวณอ่าวไทยตอนล่างที่ฝ่ายมาเลเซียและเวียดนามมเองระบุก่อนหน้านั้นว่า อาจเป็นจุดเครื่องบินตกหลังการติดต่อครั้งสุดท้าย
หลายประเทศได้ส่งทั้งเครื่องบิน และเรือออกค้นหาทั้งในน่านน้ำของมาเลเซีย และในน่านน้ำเวียดนามในทะเลอ่าวไทยตอนล่าง จนกระทั่ง 2 วันหลังจึงเริ่มขยายการค้นหาออกไปทางฝั่งตะวันตกในเขตช่องแคบมะละกา และทะเลอันดามัน
ถ้าหากเป็นความจริงภาพวัตถุลอยน้ำที่จีนนำออกเปิดเผยนี้ ก็จะเป็นชิ้นส่วนแรกของเครื่องบินโบอิ้งปริศนาซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความเป็นกังวลของญาติมิตรกับครอบครัวของผู้โดยสารได้ และกำลังจะเปลี่ยนทิศทางการค้นหาอีกครั้งหนึ่ง.
.
2
3