ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบิน พี 3 “โอไรออน” (P 3"Örion") ซึ่งเป็นเครื่องบินปราบเรือดำน้ำเข้าสู่บิรเวณอ่าวไทยแล้ว หลังจากประกาศส่งเรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์ก สุดล้ำอีก 1 ลำ เข้าพื้นที่ต้องสงสัยก่อนหน้านั้น เว็บไซต์กองทัพเรือที่ 7 สหรัฐฯ ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอสั้นๆ แสดงให้เห็น พี 3 ลำหนึ่งบินขึ้นจากฐานทัพโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อประมาณ 5 ชั่วโมงก่อนหน้านี้
พี 3 เป็นเครื่องบินที่ใช้งานมานานกว่า 40 ปี แต่ได้รับการพัฒนามาเป็นลำดับสามารถปฏิบัติการในระยะไกลหลายพันกิโลเมตร ติดระบบเรดาร์ล้ำเทคโนโลยีในการค้นหาเรือดำน้ำ รวมทั้งขีดความสามารถในการสื่อสารผ่านดาวเทียม และความสามารรถด้านอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในขณะที่หลายประเทศในย่านนี้ส่งอากาศยานกว่า 10 ลำ เรือหลากหลายขนาดและขนิดอีกเกือบ 40 ลำ ออกค้นหาเศษซากโบอิ้ง 777-200ER
เที่ยวบิน MH370 สายการบินมาเลเซีย ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินเมื่อ 40 ชั่วโมงที่แล้ว ขณะบินอยู่เหนือทะเลอ่าวไทยก่อนจะบินเข้าสู่น่าฟ้าเวียดนาม บนเส้นทางไปยังกรุงปักกิ่งพร้อมผู้โดยสารกับลูกเรือ 239 คน
กระทรวงการกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า เรือพิงค์นีย์ (US Pinckney, DDG 91) กำกลังมุ่งหน้า “ลงใต้” เพื่อร่วมกับเวียดนามในการค้นหาเครื่องบินโดยสารของมาเลเซีย เรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์ก (Arleigh-Burke- Class) มีระบบเรดาห์ทันสมัยในภารกิจปราบปรามเรือทุกชนิด ทั้งสงครามใต้นำและบนผิวน้ำ รวมทั้งขีดความสามรารถในการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการค้นหาอย่างยิ่ง
บนเรือพิฆาตชั้นนี้ ทุกลำยังมีเฮลิคอปเตอร์ “ซีฮอว์ก” (MH-60R Seahawk) ถึง 2 ลำ ติดระบบค้นหาที่ทันสมัยในภารกิจปราบเรือดำน้ำ และการลำเลียงขนส่งอีกด้วย
ปัจจุบัน เรือพิงค์นีย์ กำลังอยู่ระหว่างการฝึก และลาดตระเวนในย่านทะเลจีนใต้จึงอยู่ใกล้แหล่งสงสัยจะเป็นที่เกิดเหตุมากที่สุด
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาานในขณะเดียวกันว่า สำนักงานสอบสวนและสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI ยังได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยังมาเลเซี่ยเพื่อร่วมสืบหาสาเหตุของเครื่ทองบินตกครั้งนี้ ซึ่งมีพลเมืองสหรัฐฯ ประสบชะตากรรมอยู่ด้วย 3 คน และมีผู้โดยสารอย่างน้อย 2 คน ใช้หนังสือเดินทางปลอมที่ถูกขโมยจากชาวต่างประเทศในกรุงเทพฯ ในการเดินทางครั้งนี้
ตามรายงานล่าสุดของโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เจ้าหน้าที่มาเลเซียกำลังตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้โดยสารบนเครื่องบินอย่าางน้อย 4 ราย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายหันมาสนใจในประเด็นการก่อการร้ายบนเครื่องบินลำนี้
ระหว่างการร่วมแถลงข่าวเมื่อเวลาเที่ยงวันอาทิตย์นี้ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศมาเลเซีย ได้เปิดเผยบันทึกของเรดาห์กองทัพอากาศที่บ่งชี้ว่า โบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH370 อาจจะพยายามหันหัวกลับก่อนจะขาดการติดต่อกับสถานีควบคุมการบิน และสูญหายไปตั้งแต่นั้น.