xs
xsm
sm
md
lg

สื่อจีนหนุน รบ.อัดงบกลาโหมเพิ่ม ชี้ระยะยาวต้อง “ครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพซึ่งถ่ายไว้เมื่อวันพุธ (5 มี.ค.) แสดงให้เห็นทหารจีนผู้หนึ่งกระโดดลอดบ่วงไฟ ระหว่างการฝึกซ้อมทางยุทธวิธีที่เมืองเฮยเหอ มณฑลเฮยหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน การที่แดนมังกรประกาศเพิ่มงบกลาโหมเป็นตัวเลข 2 หลัก กำลังสร้างความกังวลให้ญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ถึงแม้จีนเองยืนยันว่าไม่ได้มุ่งคุกคามใคร
เอเจนซีส์ - สื่อแดนมังกรลั่น จีนมีเหตุผลสมควรในการเพิ่มงบประมาณการทหารต่อเนื่อง เพื่อให้ได้สัดส่วนกับของสหรัฐฯ ในระยะยาว ตลอดจนต้องมีความเหนือกว่าญี่ปุ่น แต่ก็ยืนยันการขยายแสนยานุภาพเช่นนี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามใคร ขณะที่สื่อญี่ปุ่นแสดงความกังขา และผู้บัญชาการกองกำลังแปซิฟิกของอเมริกาก็ระบุว่ากังวลเรื่องความโปร่งใสของงบกลาโหมจีน โดยที่วอชิงตันเรียกร้องให้ปักกิ่งใช้สมรรถนะทางทหารเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชีย-แปซิฟิก

บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โกลบัล ไทมส์ ซึ่งใกล้ชิดกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉบับวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) ระบุว่า จีนไม่มีเจตนาที่จะทำลายแบบแผนความมั่นคงระหว่างประเทศในปัจจุบัน และจีนจะไม่มีวันวางตัวเป็นเจ้าเหนือคนอื่น

ขณะที่บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ของทางการจีนในวันเดียวกัน ขานรับว่า “สันติภาพของโลกเรียกร้องต้องการให้จีนมีแสนยานุภาพทางทหารที่เข้มแข็งขึ้น” และตอบโต้ว่า ผู้ที่กล่าวหาว่า จีนแสดง “บทบาทเป็นอันธพาล” นั้น คือ “ผู้ที่ปฏิเสธความจริงอย่างสิ้นเชิง”

ความคิดเห็นเช่นนี้ของสื่อทางการจีน เป็นการขานรับการแถลงนโยบายรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ในวาระการเปิดประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภา) ของแดนมังกรเมื่อวันพุธ (5) ซึ่งเขาระบุว่าในปีนี้จะจัดสรรงบการทหาร 132,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12.2% ตัวเลขนี้ยังถือว่าห่างไกลนักจากงบกลาโหมของอเมริกาซึ่งในปี 2014 อยู่ที่ 633,000 ล้านดอลลาร์ ถึงแม้พวกนักวิเคราะห์เชื่อว่า ยอดการใช้จ่ายจริงของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนสูงกว่าตัวเลขที่เปิดเผยออกมานี้มาก

“จีนจะไม่หยุดเพิ่มงบประมาณกลาโหม” บทบรรณาธิการของโกลบัล ไทมส์ บอกและระบุว่า “เป็นที่เชื่อกันว่าสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับจีนในระยะยาวก็คือ การรักษา (งบกลาโหม) ให้อยู่ที่ราวครึ่งหนึ่งหรือ 2 ใน 3 ของสหรัฐฯ” บทบรรณาธิการชิ้นนี้ยังสำทับว่า จีนควรที่จะมีความเหนือกว่าญี่ปุ่นอย่างสมบูรณ์ทั้งในด้านกำลังทางอากาศและกำลังทางทะเล รวมถึงสมรรถนะการโจมตีเชิงยุทธศาสตร์ เนื่องจากญี่ปุ่นนั้นกำลังได้รับการปกป้องจากการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ”

“การใช้จ่ายทางการทหารประจำปีของจีนได้เลยหน้ารัสเซียไปแล้ว แต่จีนถือว่ามีความเข้มแข็งทางทหารยิ่งกว่ารัสเซียหรือยัง เห็นได้ชัดเจนว่า ยัง” โกลบัล ไทมส์ กล่าวต่อ

ขณะที่ไชน่า เดลีสำทับว่า การเพิ่มงบประมาณกลาโหมในปีนี้เป็นสิ่งจำเป็นและชอบธรรม เนื่องจากจีนมีผลประโยชน์ที่ต้องปกป้องมากขึ้น อีกทั้งขณะนี้ยังมีภัยคุกคามด้านความมั่นคงมากขึ้นจากพวกประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน

อย่างไรก็ดี ทั้งญี่ปุ่นและอเมริกาต่างแสดงความกังวลต่อการเพิ่มงบการทหารของพญามังกร

เมื่อวันพุธ โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงว่า การขาดความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบกลาโหมของจีนเป็นสิ่งที่นานาชาติ รวมถึงญี่ปุ่นวิตก

ขณะที่ อาซาฮี ชิมบุง หนังสือพิมพ์แนวเสรีนิยมของญี่ปุ่นกล่าวในบทบรรณาธิการฉบับวันพฤหัสบดีว่า งบกลาโหมของจีนเวลานี้เป็น “3 เท่าตัว” ของญี่ปุ่นแล้ว และการขยายแสนยานุภาพทางทหารของปักกิ่งยังไม่มีทีท่าจะยุติลง การเพิ่มสมรรถนะทางทหารเช่นนี้ทำให้ประชาคมระหว่างประเทศเกิดความกังวลอย่างแรงกล้า

ส่วน โยมิอูริ ชิมบุง หนังสือพิมพ์ขายดีที่สุดซึ่งมีแนวทางอนุรักษนิยม ก็เตือนว่า การที่จีนภายใต้สี จิ้นผิง เร่งเพิ่มแสนยานุภาพอย่างรวดเร็ว จะยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้แก่ “ทฤษฎีภัยคุกคามจากจีน”

ทางด้าน พล.ร.อ.แซมมูเอล ล็อคเลียร์ ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นแปซิฟิกของอเมริกา ที่ไปตอบกระทู้ของคณะกรรมาธิการกลาโหมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ กล่าวว่า การเพิ่มงบประมาณ 12.2% ของจีนเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ การดำเนินการของปักกิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงการอ้างสิทธิเหนือดินแดนที่เป็นข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน และการประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศในทะเลจีนตะวันออก

ล็อกเลียร์ยังกังวลกับ ความโปร่งใสของงบกลาโหมของจีน รวมถึงเป้าหมายในการนำไปใช้

ส่วน เจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในวันเดียวกันว่า วอชิงตันเรียกร้องให้ปักกิ่งเปิดเผยงบประมาณกลาโหมอย่างโปร่งใส รวมทั้งใช้แสนยานุภาพทางทหารเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชีย-แปซิฟิก

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนได้ออกมาตอบโต้เรื่องนี้ในวันพฤหัสบดีว่า วอชิงตันและโตเกียวต่างหากที่ควรอธิบายจุดยืนและเจตนารมณ์ทางทหารของพวกตนต่อโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น