เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - พญามังกรยืนยัน สันติภาพสามารถรักษาไว้ได้ก็ด้วยการใช้กำลังเท่านั้น ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า การเพิ่มงบประมาณกลาโหมในปีนี้ของจีนแสดงให้เห็นว่า จีนจะไม่ยอมประนีประนอมข้อพิพาทหมู่เกาะกับชาติเพื่อนบ้านอย่างเด็ดขาด
รัฐบาลจีนประกาศเพิ่มงบประมาณกลาโหมในปีนี้อีกร้อยละ 12.2 จากปีที่แล้ว เป็น 808,230 ล้านหยวน ซึ่งยังสูงกว่าการเพิ่มงบประมาณกลาโหม ซึ่งจีนทำเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2554ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปีอีกด้วย โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงให้คำมั่นต่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติประจำปีเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า รัฐบาลจะดำเนินการปรับปรุงกองทัพปลดแอกประชาชนจีนให้มีความทันสมัยต่อไป เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำสงครามในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร และจะพัฒนาเทคโนโลยี่ด้านอาวุธให้มีความทันสมัย เพื่อให้จีนกลายเป็นชาติ ที่มีความแข็งแกร่งทางทะเล
ญี่ปุ่น ซึ่งกำลังขัดแย้งกับจีนอย่างหนักเกี่ยวกับปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก และบาดแผลในสมัยสงครามในอดีต สดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มงบประมาณกลาโหมของจีน โดยนายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า การขาดความโปร่งใสด้านการทหารของจีนเป็นสิ่งที่ประชาคมโลกวิตกกัน
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนตอบโต้ โดยอ้างว่า การเพิ่มงบประมาณกลาโหมของจีนอยู่ในระดับปานกลาง และกองทัพปลดแอกประชาชนจีนไม่ใช่ลูกเสือ ที่ถือแค่หอก หรือแม้แต่ลูกเสือเองก็ต้องเติบโต ทำให้เสื้อผ้าและรองเท้าที่สวมใส่คับเกินไป จนต้องเปลี่ยน
พลอากาศตรีหยาง ตงหมิง รองผู้บัญชาการกองทัพอากาศระบุว่า อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือของกองทัพอากาศในเวลานี้ทันสมัยสู้ของกองทัพต่างชาติไม่ได้ นอกจากนั้น จีนยังจำเป็นต้องเพิ่มการฝึกกำลังพลในกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่จีนประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศเหนือทะเลจีนตะวันออกเมื่อไม่นาน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนต่างออกมาปกป้องการเพิ่มงบประมาณกลาโหม โดยก่อนหน้าการประกาศเพิ่มงบประมาณเพียง 1 วัน ฟู่ อิ๋ง ซึ่งทำหน้าที่โฆษกการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติประจำปีระบุว่า จีนยึดมั่นการพัฒนาประเทศอย่างสันติ แต่สันติภาพสามารถธำรงรักษาไว้ได้ก็ด้วยการใช้กำลังทหารเท่านั้น และจีนสนับสนุนการคลี่คลายปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองหมู่ด้วยการเจรจา แต่กองทัพจะไม่รอช้า หากอีกฝ่ายกระทำการยั่วยุ
นายหนี เล่อสยง นักวิเคราะห์ด้านการทหาร ซึ่งอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้แสดงความเห็นต่อถ้อยแถลงของโฆษกหญิงผู้นี้ว่า คล้ายคลึงกับคำประกาศของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่จะปรับปรุงความพร้อมของกองทัพในการสู้รบจริง และประโยคที่ว่า สันติภาพสามารถรักษาไว้ได้ก็ด้วยการใช้กำลังเท่านั้นบ่งชี้ว่า จีนต้องการแสดงแสนยานุภาพให้เกรงขามกันมากขึ้น
ขณะที่นักวิเคราะห์คนอื่น ๆ เห็นว่า ในอนาคตปักกิ่งน่าจะประนีประนอมน้อยลงเกี่ยวกับข้อพิพาทหมู่เกาะ
นายเย่ว์ กัง พันเอกนอกราชการมองว่า การเพิ่มงบประมาณกลาโหมย่อมหมายถึงว่า จีนกำลังแสดงอำนาจทางทหาร เพื่อให้ชาติอื่น ๆ ระมัดระวังมากขึ้น ก่อนจะกระทำการยั่วยุใด ๆ
ทั้งนี้ นอกจากรัสเซียแล้ว จีนเป็นชาติเดียวที่เพิ่มงบประมาณกลาโหมในปีที่แล้ว จากข้อมูลของสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งสต็อกโฮล์ม ขณะที่รายงานของคณะกรรมาธิการพิจารณาทบทวนด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯ-จีนระบุเมื่อเดือนพ.ย. 2556 ว่า การเพิ่มความแข็งแกร่งทางทหารในเอเชียของจีนกำลังทำให้สมดุลด้านความมั่นคงในภูมิภาคนี้เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นการท้าทายแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯ ที่ครอบงำภูมิภาคเอเชียมานานหลายทศวรรษ