xs
xsm
sm
md
lg

จีนชูธงปฏิรูปเศรษฐกิจ-ขจัดมลพิษ เพิ่มงบทหารปีนี้ 12% ปกป้องอธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ขณะกล่าวรายงานกิจการรัฐบาล ในพิธีเปิดการประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภา) ของจีน ณ มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (5)
เอเจนซีส์ - จีนส่งสัญญาณชัดเจนเดินหน้าปฏิรูปสู่ระบบเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยประกาศในวันพุธ (5 มี.ค.) ตั้งเป้าสร้างการเติบโตปีนี้ที่ 7.5% ท่ามกลางการชะลอการลงทุนของภาครัฐ และเร่งทำสงครามกับมลพิษ แต่พร้อมกันนั้นก็แถลงเพิ่มงบกลาโหม 12.2% กระตุ้นความกังวลของเพื่อนบ้านโดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ออกมาวิจารณ์ทันควันถึงความไม่โปร่งใสของงบทหารแดนมังกร

ระหว่าง “รายงานกิจการรัฐบาล” หรือการแถลนโยบายประจำปี ต่อการประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ (รัฐสภา) ของจีน ซึ่งเริ่มต้นเปิดขึ้นในวันพุธ นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ประกาศว่ามาตรการปฏิรูปจะเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก โดยที่จะหันมาการส่งเสริมการเติบโตจากการบริโภคภายใน แทนการเน้นการลงทุนของภาครัฐ นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะปิดโรงงานเก่าในอุตสาหกรรมที่มีกำลังผลิตล้นเกิน และพัฒนาภาษีใหม่เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม

เพื่อสนับสนุนการปฏิรูป คณะกรรมการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของจีน ได้รายงานต่อสมาชิกสภาจำนวนราว 3,000 คนที่จะร่วมประชุมกันจนถึงวันที่ 13 นี้ ว่า รัฐบาลจะกำหนดเป้าหมายการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร 17.5% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นอัตราต่ำสุดในรอบอย่างน้อย 10 ปี

หลี่ นายกรัฐมนตรีคนแรกของจีนที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ บอกว่า เป้าหมายการเติบโตปีนี้ยังคงอยู่ที่ 7.5% เท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนอัตราเงินเฟ้อกำหนดไว้ที่ราว 3.5%

นอกจากนี้ ปักกิ่งยังมีแผนจัดตั้งกลไกรับประกันเงินฝาก เพื่อปกป้องผู้ฝากเงินขณะเดียวกับที่ปูทางสู่การเปิดเสรีอัตราดอกเบี้ย ปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน ควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ อันจะทำให้งบประมาณอยู่ในภาวะขาดดุลราว 2.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เท่ากับปี 2013

การประกาศในวันพุธถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ปักกิ่งรักษาคำมั่นในการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ให้ไว้ในการประชุมเต็มคณะของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในอันที่จะลดการพึ่งพิงการลงทุนของภาครัฐและการส่งออกสู่การขยายตัวที่ชะลอตัวลง แต่มีความสมดุลและยั่งยืนมากขึ้น

ขณะเดียวกัน แม้การพัฒนาสู่ยุคอุตสาหกรรมตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจแดนมังกรเฟื่องฟูอย่างมาก แต่ก็ต้องแลกด้วยผลกระทบรุนแรงด้านสิ่งแวดล้อม

ในประเด็นนี้ หลี่ ชี้ว่า หมอกควันและสิ่งแวดล้อมเป็นพิษเป็นปัญหาใหญ่ของจีน และเป็นการเตือนภัยจากธรรมชาติถึงการพัฒนาที่ไร้ประสิทธิภาพและมืดบอด ดังนั้น รัฐบาลจะต่อสู้กับปัญหานี้อย่างจริงจังเช่นเดียวกับการต่อสู้ปัญหาความยากจน ด้วยการปิดเตาหลอมที่ใช้ถ่านหินขนาดเล็ก 50,000 เตา ปรับปรุงโรงงานไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหิน และกำจัดรถที่ปล่อยไอเสียรุนแรง 6 ล้านคันออกจากถนนภายในปีนี้ รวมทั้งปิดโรงงานที่ล้าสมัยในอุตสาหกรรมที่มีกำลังผลิตล้นเกิน เช่น เหล็กกล้าและซีเมนต์ และปฏิรูปการกำหนดราคาสาธารณูปโภคสำหรับครัวเรือน

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การดำเนินการมาตรการปฏิรูปที่ประกาศออกมาเหล่านี้มีความสำคัญมาก แต่ดูเหมือนเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากหลายมาตรการขัดแย้งกันเอง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น รัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตสูงถึง 7.5% เท่ากับปีที่ผ่านมา แต่กลับออกมาตรการปฏิรูปหลายอย่างที่ขัดขวางการเติบโต อาทิ การปิดโรงงาน

สำหรับงบประมาณด้านกลาโหมนั้น หลี่ประกาศเพิ่มงบใช้จ่ายทางการทหารในปีนี้ 12.2% เป็น 132,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับเพื่อนบ้านหลายชาติ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ จากกรณีการแย่งชิงสิทธิ์อธิปไตยเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก

จีนนั้นเพิ่มงบกลาโหมในอัตราเลขสองหลักต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทว่า นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าจำนวนที่เปิดเผย กระนั้น ปักกิ่งยังย้ำว่า งบกลาโหมของตนยังน้อยกว่าของอเมริกามาก

หลี่ แถลงต่อสภาว่า จีนจะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของประเทศ รวมทั้งปกป้องชัยชนะจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศหลังสงคราม และจะไม่ยอมให้ใครบิดเบือนประวัติศาสตร์ ซึ่งแม้ไม่ได้ระบุโดยตรง แต่เป็นที่รู้กันว่า คำพูดของหลี่นั้นพุ่งเป้าไปที่ญี่ปุ่น

ภายหลังการแถลงงบประมาณกลาโหมของจีนไม่นาน โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความคิดเห็นว่า งบประมาณกลาโหมที่ไม่โปร่งใสของปักกิ่งเป็นประเด็นที่นานาชาติ รวมถึงญี่ปุ่นกังวล
กำลังโหลดความคิดเห็น