เอเอฟพี - รัฐบาลจีนประกาศจัดสรรงบประมาณด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นอีกราว 12.2% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีที่ 4 ต่อเนื่องที่ปักกิ่งทุ่มเม็ดเงินก้อนโตเพื่อยกระดับแสนยานุภาพทางทหาร จนเป็นที่น่าหวั่นวิตกสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน
หลายปีมานี้ จีนสนับสนุนงบประมาณมหาศาลแก่กองทัพปลดปล่อยประชาชน (กองทัพจีน) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมาดปรารถนาของปักกิ่งที่จะสร้างกองทัพที่เข้มแข็ง ในขณะที่จีนก้าวขึ้นมามีบทบาทในฐานะมหาอำนาจของโลก และยังพัวพันกรณีพิพาทดินแดนกับญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศในเอเชีย
“รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกระทรวงกลาโหมไว้ที่ 808,230 ล้านหยวน (ราว 4.25 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากเดิม 12.2%” กระทรวงการคลังของจีนระบุในแผนงบประมาณซึ่งเตรียมเสนอต่อที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในวันนี้(5)
“จากประวัติศาสตร์และประสบการณ์ของเรา จีนเชื่อว่าการรักษาสันติภาพจะทำได้ด้วยกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น” ฟู่ หยิง โฆษกหญิงของสภาประชาชนแห่งชาติ แถลง
ปีที่แล้ว จีนทุ่มงบกลาโหมเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 10.7% หลังจากที่เคยประกาศเพิ่มมาแล้ว 11.2% และ 12.7% ในปี 2012 และ 2011 ตามลำดับ
ท่าทีของจีนสร้างความอึดอัดต่อทั้งสหรัฐฯและประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับจีนมานาน และยังบาดหมางกับปักกิ่งเรื่องอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่า “เซ็งกากุ” ส่วนจีนเรียกในภาษาของตนว่า “เตี้ยวอี๋ว์”
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นก็ได้อนุมัติเพิ่มงบกลาโหม 24.7 ล้านล้านเยน (ราว 7.83 ล้านล้านบาท) ระหว่างปี 2014-2019 หรือราวๆ 5% ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งก็ทำให้โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนออกมาติเตียนในเดือนธันวาคมว่า การกระทำของญี่ปุ่น “จะสร้างความกังวลอย่างยิ่งต่อประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียและประชาคมโลก”
นักวิเคราะห์เชื่อว่า งบประมาณกองทัพจีน “สูงกว่า” ที่ประกาศออกมามากนัก โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประเมินไว้ว่า ในปี 2012 จีนใช้จ่ายงบกลาโหมไปมากถึง 135,000-215,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลี่ ชิงกง รองเลขาธิการสภาเพื่อการศึกษานโยบายความมั่นคงแห่งชาติจีน (Council for National Security Policy Studies) เคยกล่าวว่า ปักกิ่งจะเน้นพัฒนาอาวุธทางทะเล, อากาศ และหัวรบนิวเคลียร์ และจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับกองทัพเรือ โดยมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนเรือบรรทุกเครื่องบินและกองเรือต่างๆให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
