เอเจนซีส์ – นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซียวันนี้ (15 มี.ค.) ออกมาแถลงว่า มีผู้จงใจปิดระบบการสื่อสาร และเปลี่ยนเส้นทางเครื่องบินโบอิ้งของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ก่อนที่เครื่องบินลำนี้จะอันตรธานหายไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ทว่าไม่ยืนยันว่าเครื่องบินลำนี้ถูกจี้
ในเวลาที่ข้อมูลเรดาร์ทหารมาเลเซียได้รับการเปิดเผย นาจิบ กล่าวว่า ภารกิจค้นหาโบอิ้ง 777-200 ER ได้ขยายขอบเขตออกไปในเส้นทางบินระหว่างคาซัคสถาน กับภาคเหนือของไทย และทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย พร้อมระบุด้วยว่า “ในวันนี้ 14 ประเทศได้ส่งเรือ 43 ลำ และอากาศยาน 58 ลำ ออกค้นหาเครื่องบินลำนี้
“เป็นที่ยอมรับว่า ไม่เคยเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาก่อน เราดำเนินภารกิจค้นหาเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ ช่องแคบมะละกา ทะเลอันดามัน และมหาสมุทรอินเดีย”
“ในการดำเนินงานทุกขั้นตอน เรายึดถือข้อมูลที่ได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง และติดตามเฉพาะเบาะแสที่เชื่อถือได้เท่านั้น แต่บางครั้งเบาะแสเหล่านั้นก็ไม่ได้ช่วยให้เราค้นพบอะไรเลย”
ข้อมูลเรดาร์ในขั้นต้นชี้ว่า เครื่องบินลำนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางบินไปทางเหนือของช่องแคบมะละกา และเนื่องจากข้อมูลนี้มีความน่าเชื่อถือ และต่อมาก็ได้รับการยืนยันจากบรรดาเจ้าหน้าที่จากนานาชาติที่เกี่ยวข้อง เราจึงขยายขอบเขตการค้นหาออกไปยังช่องแคบมะละกา และทะเลอันดามัน
“ตามข้อมูลใหม่ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจด้านการบินของมาเลเซียและนานาชาติเชื่อว่า การที่เครื่องบินลำนี้ติดต่อไปหาดาวเทียมครั้งสุดท้ายได้ชี้ให้เห็นว่า เครื่องบินอาจใช้หนึ่งในสองเส้นทางต่อไปนี้ คือเส้นทางบินทางเหนือ จากแนวพรมแดนคาซัคสถานกับเติร์กเมนิสถานไปยังภาคเหนือของไทย หรืออีกเส้นทางที่อยู่ทางใต้ คือจากอินโดนีเซียไปยังตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย อย่างไรก็ตาม ทีมสืบสวนกำลังตรวจสอบข้อมูลนี้โดยละเอียด
“แม้ว่าสื่อมวลชนจะรายงานว่า เครื่องบินลำนี้ถูกจี้ แต่ผมอยากให้ทุกอย่างปรากฏชัดเจนดีเสียก่อน เรากำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ทั้งหมด อย่างเช่น สิ่งที่ทำให้ MH370 นอกเส้นทางเดิม
ในเวลาเดียวกันนี้ มีรายงานข่าวอ้างว่า เครื่องบินโดยสารลำนี้ อาจบินออกนอกชายฝั่งทางตะวันตกของออสเตรเลีย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กของออสเตรเลียรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งระบุว่า ครั้งสุดท้ายที่เครื่องบินลำนี้ส่งสัญญาณไปหาดาวเทียม คือในเวลาที่เครื่องบินลำนี้บินอยู่เหนือมหาสมุทรอินเดีย บริเวณนอกชายฝั่งออสเตรเลีย ซึ่งน่าจะเป็นที่ใดสักแห่งทางทิศตะวันตกของเมืองเพิร์ธ
อย่างไรก็ตาม องค์การความปลอดภัยด้านการเดินเรือออสเตรเลีย (AMSA) ระบุว่า ยังไม่พบข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่า เที่ยวบิน MH370 อาจบินมาใกล้ออสเตรเลีย
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า พนักงานสืบสวนกำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ที่อาจเครื่องบินลำนี้จะอันตรธานหายไปเพราะมี “บุคคลเข้าแทรกแซง” พร้อมทั้งระบุเพิ่มเติมว่า อาจเป็น “การก่อเหตุของสลัดอากาศ”
ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ER ลำนี้ขาดการติดต่อกับภาคพื้นดิน หลังออกจากท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่งได้เพียงชั่วโมงเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุว่า ข้อมูลจากเรดาร์ทหารชี้ว่า เครื่องบินอาจหันหัวกลับไปยังคาบสมุทรมลายู ทางตะวันตก หลังกำลังบินมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของจีน
