xs
xsm
sm
md
lg

“เลี้ยงควายก็รวยได้” วิสัยทัศน์หนุ่มชาวนาฮานอย โกยกำไรปีละเฉียดล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#00003>รางวัลสำหรับการคิดต่าง เหวียนดี่งเทียน (Nguyen Dinh Thien) ซึ่งตัดสินใจหันหลังให้มหาวิทยาลัยเมื่อสัก 10 ปีก่อน วันนี้เป็นเจ้าของควาย 60 ตัว มีรายได้คิดเป็นเงินไทยปีละเกือบ 1 ล้านบาท ไม่ใช่เงินน้อยๆ สำหรับชาวนาครอบครัวหนึ่งในเวียดนาม ตอนนี้กำลังทำธุรกิจคู่ขนานกับอาชีพของเขาอีกด้วย. -- ภาพ: ซเวินเหวียดออนไลน์.</b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สำหรับเหวียนดี่งเทียน (Nguyen Dinh Thien) ท้องนาของครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจของเขา เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อ 10 ปีก่อน สอบแอดมิชชันเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ แต่ด้วยความเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ห่วงใยบิดามารดากับฝูงควาย เขาจึงตัดสินใจหันเหชีวิตหันหลังให้เมืองใหญ่เพื่อใช้ชีวิตกับทุ่งนาถิ่นเกิด วันนี้อายุ 27 จากเด็กเลี้ยงควายกลายเป็นเศรษฐีย่อมๆ ในคอมมูนขึ้นมาได้ก็เพราะควายแท้ๆ

วันนี้ เทียน เป็นเจ้าของฝูงควาย 60 ตัว จากทุ่งนาใน อ.ห่าโดง รอบนอกกรุงฮานอย เขาออกหาซื้อควายอยู่ตลอดเวลามาเกือบ 10 ปีแล้ว ซื้อมาเลี้ยงเพาะพันธุ์แล้วก็ขายไปขายทั้งควายโต ขายลูกควาย ตราบใดที่ควายยังเป็นแรงงานสำคัญในภาคเกษตรตลาดควายของเขาก็ไม่เคยวาย

หลายคนอาจคิดไม่ถึง ด้วยความเพียรพยายาม และตีตลาดแตกเมื่อปี 2552 เจ้าตัวเริ่มมีรายปีละ 400 ล้านด่ง พอสิ้นปี 2556 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านด่ง และด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 21,000 ด่ง/ดอลลาร์ หากเทียบเป็นเงินไทยดอลลาร์ละ 33 บาท ก็เป็นอันว่าเมื่อปีที่แล้วหนุ่มโสดคนนี้มีเงินเข้ากระเป๋ากว่า 940,000 บาท คิดเป็นรายเดือนๆ ละเกือบ 80,000 บาท

ต้นทุนของเขาต่ำมาก เพราะควายกินหญ้าตามธรรมชาติในผืนนาอันอุดมของครอบครัว เขาลงทุนครั้งใหญ่แค่ครั้งเดียวคือ ตอนที่สร้างโรงเรือนให้ควายอาศัย รายจ่ายอื่นๆ ก็มีเพียงจัดซื้ออาหารเสริมอันแทบจะไม่จำเป็น หมั่นดูแลสุขภาพของเหล่าควาย ฉีดวัคซีนให้ตัวเล็กตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อำเภอ ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่ได้มากมายอะไร เพราะว่าควายไม่ใช่สัตว์ขี้โรค สำนักข่าวซเวินเหวียด หรือ “ประชาชนเวียดนาม” รายงานในเว็บไซต์

ควาย 60 ตัว ถ่ายมูลออกมามากมาย และกลายเป็นของล้ำค่า ครอบครัวนำไปหว่านลงในนาข้าวเป็นปุ๋ยธรรมชาติทำให้ข้าวงอกงามออกรวงเป็นเมล็ดข้าวที่อ่อนนุ่มมีกลิ่นหอมกรุ่น ปุ๋ยคอกของเขายังมีเหลือขายได้อีก ซึ่งเทียนกล่าวว่ายังไม่ได้นับเงินรายได้ส่วนนี้

“ผมพูดกับพ่อ และพ่อก็ตกลง ผมจึงไม่เรียนต่อ” นายเทียนย้อนอดีตกับซเวินเหวียด

เริ่มจากควายของครอบครัวที่มีเป็นทุนอยู่ 10 ตัว ขายไปบ้างแล้วนำเงินไปซื้อควายหนุ่มในจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่มากมายในภาคเหนือรอบๆ กรุงฮานอยนำมาเลี้ยงดู แล้วขายไปทำกำไร เพียงไม่นานจาก 10 ตัว จำนวนก็เพิ่มเป็น 20 ตัว เป็น 30, 40 ซื้อๆ ขายๆ จนกระทั่งวันนี้ก็ยังมีหมุนเข้ามาและเวียนออกไปไม่ขาดสาย

นักเลี้ยงควายผู้มีอันจะกินกล่าวว่า ทุ่งนาของครอบครัวมีหลายสิบไร่ขนานไปกับแม่น้ำแดง แต่นั่นไม่พอสำหรับเลี้ยงควายทั้งหมด ไม่กี่ปีมานี้ เทียน ขยายกิจการออกไปยังชายป่าติดกับ จ.หว่าบิ่ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงซื้อทุ่งหญ้าที่นั่นพร้อมกับสร้างโรงเรือนหลังใหม่ ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีเงินมีทอง มีรถบรรทุก มีเครื่องจักรการเกษตรเขายังใช้ชีวิตประจำวันกับการเลี้ยง และดูแลควายอยู่เหมือนเดิม

ถึงแม้จะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่หนุ่มคนนี้ก็ขวนขวายเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้เพื่องานในอาชีพ ไม่มีความรู้จะไม่สามารถทำธุรกิจกับสัตว์เลี้ยงที่เขาโปรดปรานได้ และตอนนี้เทียน ก็กำลังคิดแผนธุรกิจคู่ขนานในไลน์เดียวกันเช่น ผลิตหญ้าสำหรับวัว-ควายออกขายให้ชาวนาในย่านนี้เป็นต้น

ชายหนุ่มบอกว่าไม่หวงวิชาและพร้อมถ่ายทอดความรู้การทำมาหากินกับควายให้ผู้ที่สนใจทุกคน.
กำลังโหลดความคิดเห็น