xs
xsm
sm
md
lg

“สยามเกรนส์” ทุ่ม 50 ล้านปรับปรุงใหญ่ หาตลาดใหม่แอฟริกาส่งออกข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิติพันธุ์ เหล่าประภัสสร ผู้จัดการฝ่ายการขาย บริษัท สยามเกรนส์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิชั้น
สยามเกรนส์ใช้งบปรับปรุงกระบวนการการผลิต นำระบบการบรรจุข้าวแบบอัตโนมัติและแขนหุ่นยนต์มาใช้จัดเรียงสินค้า ซื้อใจลูกค้าตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ พร้อมรุกตลาดเกิดใหม่ในแอฟริกาตะวันตก ขยายที่มั่นตลาดระดับกลางและระดับบน ปรับแพกเกจจิ้งใหม่ รักษามาตรฐานสินค้าที่มีคุณภาพสูง สอดคล้องกับราคาระดับพรีเมียม หลังต้นทุนข้าวไทยพุ่งสูง เชิญชวนให้คนไทยบริโภคข้าวหอมมะลิไทยเพราะมีรสชาติอร่อย หอมนุ่ม หุงแล้วเก็บไว้ได้นาน

นายกิติพันธุ์ เหล่าประภัสสร ผู้จัดการฝ่ายการขาย บริษัท สยามเกรนส์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิชั้นนำรายหนึ่งของโลก เปิดเผยถึงการปรับตัวเพื่อรักษาและขยายตลาดข้าวหอมมะลิส่งออกว่า แม้ข้าวหอมมะลิของไทยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดโลกมานานหลายสิบปี เพราะผู้ประกอบการของไทยได้เข้าไปบุกเบิกตลาดมาแล้วทั่วโลก มีอัตราการเติบโตจากการส่งออกเป็นอย่างดีตลอดมา แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้ตลาดส่งออกข้าวหอมมะลิไทยเริ่มถูกข้าวหอมจากประเทศข้างเคียงเข้ามาแย่งตลาด โดยปัจจัยหลักเกิดจากส่วนต่างของราคาที่สูงกว่าเกือบถึงเท่าตัว ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องหาทางปรับตัวอย่างมากเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ โดยสยามเกรนส์มองว่าข้าวหอมมะลิของไทยอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดล่างและกลางที่ให้ความสำคัญต่อปัจจัยด้านราคา จึงต้องรักษาและหาทางขยายตลาดกลางและตลาดบนเอาไว้ให้ได้ดีที่สุด

“สยามเกรนส์เป็นผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิชั้นนำจากประเทศไทยที่มีประวัติการทำธุรกิจที่ไว้วางใจได้มาตลอด โดยเริ่มจากโรงสีข้าวในจังหวัดเชียงรายมากว่า 60 ปี และเริ่มทำธุรกิจส่งออกข้าวมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ทำให้ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในตัวบริษัทฯ และสินค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง และมีความน่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงมีแผนงานปรับปรุงพัฒนาในหลายด้านเพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ โดยตั้งงบลงทุนในปีนี้กว่า 50 ล้านบาท ซึ่งงบนี้จะถูกนำไปพัฒนาในหลายส่วน เริ่มตั้งแต่การปรับปรุงกระบวนการผลิตและจัดส่งที่ทันสมัย การตรวจสอบคุณภาพสินค้า การคัดสรรคุณภาพของข้าวโดยเน้นข้าวที่มีแหล่งที่มาจากนาในพื้นที่ต้นน้ำ การออกแบบแพกเกจจิ้งใหม่ รวมถึงการบุกเบิกตลาดใหม่” นายกิติพันธุ์กล่าว

“เรื่องการปรับปรุงพัฒนากระบวนการการผลิตและจัดส่งสินค้าเกิดจากความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่เน้นให้ความสำคัญในความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุดเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น การนำระบบการบรรจุข้าวแบบอัตโนมัติและแขนหุ่นยนต์มาใช้จัดเรียงสินค้า (Full-line Automatic Weighting, Packing and Robotic Palletizer) โดยสยามเกรนส์เป็นรายแรกในประเทศสำหรับสินค้าข้าวที่นำระบบนี้มาใช้เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน เนื่องจากแรงงานของทางบริษัทฯ เป็นแรงงานไทยทั้งหมด และเนื่องจากลูกค้าต่างประเทศจะมีระบบจัดเก็บและจัดส่งสินค้าที่เป็น Pallet สยามเกรนส์จึงปรับปรุงพัฒนาสถานที่และระบบการจัดวางและจัดส่งสินค้าเพื่อให้สะดวกในการที่ลูกค้าจะลำเลียงสินค้าออกจากตู้สินค้า จัดเก็บได้อย่างรวดเร็ว และขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ปลายทาง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างดี จากเดิมหากใช้คนงาน 2 คนเพื่อลำเลียงสินค้าออกจากตู้และจัดเรียงบน pallet จะใช้เวลาประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง ด้วยระบบใหม่จะเหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น ทำให้ช่วยประหยัดค่าแรงซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญส่วนหนึ่งสำหรับประเทศที่มีต้นทุนแรงงานสูงอย่างสหรัฐอเมริกา อีกทั้งในปัจจุบันเราสามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วันหลังจากที่ได้รับใบสั่งซื้อ สร้างความประทับใจให้ลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างออกแบบและพัฒนาแพกเกจจิ้งให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงของประเทศไทย รวมทั้งเพิ่มตรารับรองจากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อรับรองความปลอดภัยในข้าวทุกถุง โดยคาดว่าแพกเกจจิ้งใหม่จะออกสู่ตลาดภายใน 2 เดือน” นายกิติพันธุ์กล่าว

เรื่องคุณภาพที่ไว้วางใจได้นั้น เป็นจุดที่ลูกค้าตลาดที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ให้ความสำคัญอย่างมาก สยามเกรนส์จึงให้ความสำคัญต่อการรักษามาตรฐานที่เป็นไปตามมาตรฐานโลก คุณภาพของข้าวต้องไม่มีข้อสงสัยใดๆ สามารถส่งออกได้ภายใน 7 วันหลังจากมีการสั่งซื้อ

นอกจากตลาดส่งออกหลักๆ สยามเกรนส์ยังขยายฐานลูกค้าไปตลาดเกิดใหม่ที่มีความต้องการข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะประเทศในทวีปแอฟริกาตะวันตก เช่น กาบอง กานา และแองโกลา ซึ่งในช่วงหลายปีหลังมีความต้องการบริโภคข้าวหอมมะลิไทยมากขึ้น สยามเกรนส์มีการส่งเสริมการทำการเกษตรแบบพอเพียงโดยเน้นการทำนาข้าวแบบเกษตรปลอดภัย ให้ลด ละ เลิกการใช้สารเคมีและหันมาใช้ปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ อีกทั้งช่วยสนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์เพื่อให้เกษตรกรไทยหันมาปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สยามเกรนส์ได้เชิญชวนให้คนไทยหันมาบริโภคข้าวหอมมะลิไทยให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาไทยและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ที่สำคัญคือ ข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีได้มาตรฐานระดับโลก ปลูกจากนาน้ำฝน หอมกลิ่นอ่อนๆ ของใบเตย รสสัมผัสนุ่มเหนียว มีรสชาติที่หวานเล็กน้อย รสชาติดี หุงแล้วเก็บไว้ได้นาน

กำลังโหลดความคิดเห็น