ข่าวเกี่ยวกับเวียดนามเจรจาขอซื้อ Su-35 สุดยอดเครื่องบินรบยุคที่ 4 ของโลกปัจจุบัน ได้รับความสนใจอีกครั้งหนึ่งก่อนและหลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไปเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการแบบ “สหายเก่า” วันอังคาร 12 พ.ย.2556 ซึ่งครั้งนี้เป็นการเยือนครั้งที่ 3 ในขณะอยู่ในตำแหน่งมา 3 สมัย ไม่ใช่เรื่องลี้ลับอะไรที่เวียดนามจะต้องซื้อเครื่องบินรบทันสมัยอีกจำนวนมากเพื่อประจำการแทน MiG-21 ที่จะทยอยปลด รวมทั้ง Su-22 เครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้งานมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ไปเยือนครั้งนี้ผู้นำสูงสุดของรัสเซียกล่าวว่า จะขายอาวุธทันสมัยให้เวียดนามต่อไป. |
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการวันอังคาร 12 พ.ย.ที่ผ่านมา รัสเซียจะขายอาวุธทันสมัยให้แก่เวียดนามต่อไป ขณะที่ 2 ฝ่ายกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างรอบด้าน รวมทั้งด้านการค้าและการลงทุน วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี สาธารณสุข และการศึกษาด้วย ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุกระจายเสียง “วอยซ์ออฟรัสเซีย” รายงานเรื่องนี้จากกรุงฮานอย
คำกล่าวของนายปูติน ทำให้นักสังเกตการณ์ต่างจับตามองข่าวเกี่ยวกับการเจรจาซื้อเครื่องบินรบยุคที่ 4++ แบบ Su-35 ของเวียดนาม ขณะที่นักวิชาการจีนให้ความเห็นว่า ปัจจุบันรัสเซียได้กลายเป็นผู้สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์หลักให้แก่เวียดนามในกรณีพิพาททะเลจีนใต้
นายปูติน เดินทางเวียดนามเป็นเวลา 1 วัน ในฐานะประมุขแห่งรัฐ และผู้บริหารสูงสุด ได้พบหารือความสัมพันธ์ความร่วมมือกับประธานาธิบดีเวียดนามเจืองเติ๋นชาง กับนายเหวียนฟุจ่อมง์ เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม รวมทั้งนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งด้วย
เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ 2 ฝ่ายได้ลงนามในเอกสารความตกลงและความร่วมมือในเรื่องสำคัญเกือบ 20 ฉบับ แอนนา โฟโรเต็นสโก (Anna Forotensko) ผู้สื่อข่าว “วอยซ์ออฟรัสเซีย” รายงานในวันอังคารที่ผ่านมาและเรื่องนี้ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของข่ายวิทยุ ดังกล่าว
“ในการพบเจรจาทวิภาคี เราได้พูดจาเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งในประเด็นที่มีความล่อแหลมต่างๆ เช่น ความร่วมมือด้านการกลาโหม” ปธน.รัสเซีย กล่าวกับสถานีวิทยุแห่งชาติซึ่งอธิบายว่า ในยุคสมัยของนายปูติน ทั้งในปัจจุบัน และที่ผ่านมา รัสเซียกับเวียดนามได้มีความร่วมมือกันในเรื่องสำคัญต่างๆ หลายด้าน รวมทั้งการลงทุน การบินพลเรือน การสำรวจอวกาศ และความร่วมมือช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
“รัสเซียกับเวียดนามมีความสัมพันธ์ร่วมมือแบบพิเศษระหว่างกัน เราได้ก้าวเข้าสู่ระดับใหม่มากยิ่งกว่าการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เสียอีก เราเข้ามีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริงในการทำงานร่วมกัน และการต่อสู้ รวมทั้งการต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนามด้วย” วิทยุรัสเซียอ้างคำพูดของผู้นำในตอนหนึ่ง
“ความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศมีรูปโฉมที่ดีงามออกมาเป็นจำนวนมาก” นายปูตินกล่าว
ผู้นำรัสเซียอยู่ระหว่างการตระเวนเยือนเอเชีย รวมทั้งไปเยือนเกาหลีใต้ในวันรุ่งขึ้นด้วย ซึ่งผู้นำรัสเซีย ได้ประกาศการเป็น “พลังแห่งสันติภาพ” แห่งเอเชีย
ปธน.ปูติน ยังกล่าวว่า รัสเซียจะกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือกับเวียดนามในด้านอุปกรณ์ และเครื่องมือกลาโหมสำหรับกองทัพประชาชนเวียดนามต่อไป และในวันที่ 12 พ.ย. 2 ฝ่ายได้ร่วมกันลงนามในความตกลงที่รัสเซียจะช่วยเวียดนามฝึกฝนสำหรับกองทัพเรือ รวมทั้งเพิ่มความช่วยเหลือการฝึกอบรมบุคลากรของกองทัพประชาชนเวียดนามในรัสเซียด้วย วิทยุของทางการรายงาน
.
1
ก่อนนายปูติน จะไปเยือนเวียดนามครั้งนี้ หนังสือพิมพ์ในกรุงมอสโกได้รายละเอียดอย่างหลากหลายเกี่ยวกับการซื้ออาวุธของเวียดนาม รวมทั้งการเจรจาซื้อขายเครื่องบินรบ Su-35 ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดของรัสเซียในขณะนี้
เรื่องนี้มีขึ้นหลังจากเวียดนามเพิ่งเซ็นสัญญาซื้อ Su-30 อีก 12 ลำในปีนี้ และก่อนหน้านี้ เวียดนามได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะซื้อ Su-30 รุ่นเก่าที่อินเดียส่งคืน จำนวน 18 ลำ แม้ว่ารัสเซียจะอัปเกรดให้ทันสมัยก็ตาม ที่ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมองว่า เวียดนามกำลังหมายตาไปยัง Su-35 แทน
ตามรายงานของแหล่งข่าวกลาโหมในรัสเซีย เวียดนามกำลังทยอยจัดซื้อเครื่องบินรบเป็นจำนวนมากเพื่อนำเข้าประจำการแทนฝูงบิน MiG-21 ที่จะต้องปลดประจำการทั้งหมดในอีกไม่กี่ปีหลังใช้งานมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น
ไม่เพียงแต่เครื่องบินโจมตีอเนกประสงค์เท่านั้น เวียดนามอาจจะมองไปยัง Su34 เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นใหม่ เพื่อนำเข้าใช้งานแทนฝูงบิน Su-22 ที่ล้าสมัย และหมดอายุใช้งานแล้ว ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียเองแนะนำว่า การอัปเกรดเป็นทางเลือกที่ไม่คุ้ม
.
.
เวียดนามเพิ่งจัดซื้อระบบเรดาร์ล้ำยุคจากรัสเซียจำนวนหนึ่งสำหรับกองกำลังป้องกันทางอากาศ ขณะเดียวกัน ก็เพิ่งเซ็นรับมอบทางเทคนิคเรือดำน้ำชั้นกิโลรุ่นปรับปรุงลำแรก ซึ่งมีกำหนดส่งถึงเวียดนามในเดือน ม.ค.ปีหน้า และลำที่ 2 จากทั้งหมด 6 ลำ มีกำหนดส่งมอบในช่วงกลางปี กับลำที่ 3 ตอนปลายปี สื่อของทางการรายงาน
ระหว่างการเยือนของนายปูติน 2 ฝ่ายได้ร่วมกันลงนามในความตกลงจำนวน 16 ฉบับ รวมทั้งสัญญาที่กลุ่มก๊าซปรอม (Gazprom) บริษัทน้ำมันใหญ่ของรัสเซียเข้าลงทุนในโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต ซึ่งเป็นโรงกลั่นแห่งแรกของเวียดนามตามแผนการขยายกำลังกลั่นน้ำมัน และแผนการผลิตปิโตรเคมี
กลุ่มก๊าซปรอมยังเซ็นความตกลงตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มรัฐวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซเวียดนาม (PetroVietnam) เพื่อจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซในประเทศนี้ รวมทั้งเพื่อสนับสนุนแผนการดัดแปลงยวดยานต่างๆ ไปใช้ก๊าซเป็นเชื่อเพลิงของทางการนครโฮจิมินห์ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้ก๊าซเป็นปริมาณ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อปี
ขณะเดียวกัน กลุ่มเวียดซอฟปิโตร (Vietsovpetro) ที่เข้าร่มลงทุนในเวียดนามมาเป็นเวลา 30 ปีแล้วได้เซ็นความตกลงขยายการสำรวจหาพลังงานในน่านน้ำเวียดนาม
“แบร์ฮัก“” กระชับสัมพันฉันสหาย
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
ในโอกาสนี้ 2 ฝ่ายยังเซ็นความตกลงร่วมมือด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์กับพลังงานนิวเคลียร์ ด้านสาธารณสุข การศึกษาและการอุตสาหกรรมและการผลิตสิ่งทอ และการส่งผู้ร้ายข้ามแดนด้วย
ธนาคาร 2 แห่งจากรัสเซีย กับธนาคารเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเวียดนาม (BIDV) ได้ร่วมกันเซ็นสัญญาปล่อยกู้ 50 ล้านดอลลาร์แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเวียดนาม ธนาคารรัสเซียอีกแห่งหนึ่งได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทุนกับธนาคารในเวียดนาม
ปัจจุบัน การค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่าราว 7,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี รัสเซียกับเวียดนามตกลงขายเพดานเป้าหมายขึ้นเป็น 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ภายในปี 2559 และตกลงเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่าง 2 ประเทศ วิทยุรัสเซียกล่าว
สถาบันการศึกษาชั้นสูงในรัสเซียแห่งหนึ่ง ได้เซ็นความตกลงกับฝ่ายเวียดนามเพื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยมนุษยศาสตร์รัสเซีย-เวียดนาม ขึ้นในกรุงฮานอย
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชี่ยลไทมส์ ในกรุงลอนดอน ในวันพุธนี้ นายปูติน ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพบเจราจากับ ปธน.เจืองเติ๋นชางว่า เวียดนาม “เป็นหุ้นส่วนอันยาวนานและเชื่อถือได้ของรัสเซีย มีการติดต่อทางการเมืองกันในระดับสูง”
ไฟแนนเชียลไทมส์ กล่าวอีกว่า ความช่วยเหลือด้านกลาโหมจากรัสเซีย ตลอดจนการขายอาวุธทันสมัยที่สุดหลายชนิดเป็นการช่วยเวียดนามป้องกันการข่มขู่คุกคามจากจีนในทะเลจีนใต้.