.
พนมเปญ 30 ก.ค.2556 (รอยเตอร์) - รัฐบาลกัมพูชา ได้ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านเมื่อวันอังคารนี้ ในการสอบสวนการกล่าวหาที่ว่าฝ่ายรัฐบาลได้ใช้กลโกงสารพัดในการเอาชนะการเลือกตั้ง และกล่าวว่า ต้องการให้รัฐสภาลงมติจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว
สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่ปกติต่างๆ ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ แต่ทั้งสองฝ่ายก็กล่าวว่า การสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่างๆ ควรดำเนินโดยหน่วยงานที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งของกัมพูชาเอง เป็นการไม่ยอมสนับสนุนเสียงเรียกร้องจากพรรคฝ่ายค้านที่ประสงค์ให้องค์การสหประชาชาติเข้าไปมีส่วนร่วม
รัฐบาลประกาศในวันอาทิตย์ว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian People's Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ที่อยู่ในตำแหน่งมายาวนาน เป็นฝ่ายชนะได้ 68 ที่นั่งในรัฐสภา (หรือสภาผู้แทนราษฎร) ที่มีทั้งหมด 123 ที่นั่ง ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 90 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งครั้งก่อน
พรรคฝ่ายค้าน คือ พรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) ได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็น 55 ที่นั่ง ในท่ามกลางความประหลาดใจ และเป็นการถดถอยของฮุนเซน
นายสม รังสี ผู้นำของ CNRP กล่าวว่า มีรายชื่อถึง 1.3 ล้านชื่อหายไปจากบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง และยังร้องเรียนด้วยว่า ฝ่ายค้านแทบจะไม่มีโอกาสได้เข้าถึงสื่อต่างๆ และยังถูกกลั่นแกล้งสารพัดในการรณรงค์หาเสียง
นายอุ๊ค บุฤทธิ์ (Ouch Borith) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าว
“เรามีผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศกว่า 10,000 คน กับชาวต่างประเทศอีกว่า 100 คน ที่ยอมรับว่า การเลือกตั้งจัดขึ้นอย่างสงบสันติ ปราศจากความรุนแรงใดๆ เสรี และยุติธรรม” นายบุฤทธิ์กล่าว ทั้งยืนยันด้วยว่า ไม่มีข้อพิสูจน์เกี่ยวกับรายชื่อที่ว่าถูกลบออก
“พรรคฝ่ายค้านควรจะแสดงหลักฐานให้ชัดเจนเกี่ยวกับการกล่าวหาความไม่ปกติต่างๆ คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติได้บอกแล้วว่า .. กรุณาแสดงหลักฐาน..อย่าเพียงแค่พูด เพื่อที่จะได้ร่วมกันหาทางแก้ไขสิ่งต่างๆ” นายบุฤทธิ์กล่าว
ฌอน แม็คอินทอช (Saen McIntosh) โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ในพนมเปญบอกแก่รอยเตอร์ทางอีเมลว่า “เราได้เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติทำการสอบสวนอย่างทั่วถึง และโปร่งใสต่อข้อกล่าวหาความไม่ชอบมาพากล"
.
.
สหภาพยุโรปได้แสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับ “ความขาดตกบกพร่องต่างๆ” เช่นกัน
“อียูหวังว่าข้อขัดแย้งต่างๆ ที่ตั้งคำถามต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ และกลไกระบบยุติธรรมที่มีอยู่ จะได้รับการพิจารณาดำเนินการอย่างยุติธรรม และเร่งด่วน” สหภาพยุโรประบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง
ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ หรือ National Election Committee ยังไม่ได้ระบุจำนวนที่นั่งที่แต่ละพรรคได้รับไปจากการเลือกตั้ง
ไม่พอใจความเหลื่อมล้ำ-คอร์รัปชัน
ฮุนเซน วัย 60 ปี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีติดต่อกันมา 28 ปี ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง และไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนมาตั้งแต่วันอาทิตย์ พรรคของเขาได้ออกคำแถลงในวันอังคารนี้ ปฏิเสธเสียงเล่าลือที่ว่า เขาได้ลาออก และเดินทางออกจากกัมพูชาแล้ว
แม้แต่ตัวเลขของฝ่ายรัฐบาลเอง การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์นับเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ประเทศกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยในปี 2541 หลังจากสงครามกับความไม่สงบที่กินเวลาหลายทศวรรษ รวมทั้งภายใต้ “ทุ่งสังหาร” ของฝ่ายเขมรแดงระหว่างปี 2518-2522
การโยกโย้เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง และฮุนเซนที่อ่อนแอลง อาจจะนำไปสู่ความไม่แน่นอนทางด้านนโยบายในประเทศเล็กๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เศรษฐกิจเติบโตเร็ว ที่ได้สร้างอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออกอันฟู่ฟ่าขึ้นมา และสร้างสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับทั้งจีน และเวียดนาม
การตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้นต้องการเสียงสนับสนุนถึง 120 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 123 คน ในการโหวตลงมติรับรอง ดังนั้น พรรค CNRP อาจจะไม่ให้ความร่วมมือก็ได้
แต่โอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งนั้นดูเลือนราง ทั้งนี้ เนื่องจากพรรครัฐบาลควบคุมศาลอยู่ในมือ และประเทศผู้บริจาครายใหญ่ เช่น สหรัฐฯ ก็ดูจะไม่ยอมคัดค้านผลการเลือกตั้งโดยง่าย หากปราศจากหลักฐานที่ชัดเจนแสดงให้เห็นการทุจริตแบบโจ่งครึ่ม
พรรคฝ่ายค้านได้แทรกตัวเข้าไปในความวิตกกังวลของชาวกัมพูชาเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมในสังคมกับการทุจริตคอร์รัปชัน การส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป กับการไหลเข้าของความช่วยเหลือและเงินลงทุนจากจีนได้เป็นเชื้อเพลิงให้แก่การเติบโต แต่ก็มีการร้องเรียนมากมายเกี่ยวกับความตึงเครียดในสังคม
ที่ผ่านมา ได้มีการชุมนุมประท้วงของคนงานในอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าส่งออกที่เรียกร้องค่าแรง และสวัสดิการ จนเป็นเหตุการณ์ปกติ และหลายครั้งกลายเป็นความรุนแรง รวมทั้งการประท้วงเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินในประเทศที่มีประชากร 14 ล้านคน และหนึ่งในสามมีชีวิตอยู่กับรายได้วันละ 65 เซ็นต์เท่านั้น
กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ระบบเลือกตั้งของกัมพูชานั้น โอนเอียงเข้าข้างพรรครัฐบาลและหน่วยความโปร่งใสระหว่างประเทศ-กัมพูชา (Transparency International Cambodia) ที่เฝ้าจับตาการเลือกตั้ง กล่าวว่า พวกตน “วิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการไม่ได้มีส่วนร่วมของพลเมือง และจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงที่น่าสงสัย”
แต่การลงคะแนนเมื่อวันอาทิตย์ เช่นเดียวกันกับการรณรงค์หาเสียงส่วนใหญ่ดำเนินไปด้วยความสงบ.
.