ไทย-พม่า มุ่งมั่นสานต่อโครงการท่าเรือทวาย

เอเอฟพี - ไทย และพม่า ให้คำมั่นวันนี้ (23 ก.ค.) เดินหน้าโครงการท่าเรือน้ำลึกมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และเปิดด่านพรมแดนแห่งใหม่ระหว่างการหารือของผู้นำทั้งสองประเทศ ที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน

โครงการพัฒนาทวายบนพื้นที่ชายฝั่งอันดามันทางภาคใต้ของพม่า เป็นส่วนสำคัญของแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของพม่า ที่ช่วยให้เพื่อนบ้านเช่นไทยใช้เป็นทางออกสู่มหาสมุทรอินเดีย และตลาดสู่ตะวันตก

แต่โครงการดังกล่าว ที่นำโดยบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทอิตัล-ไทย ต้องเผชิญกับการคัดค้านจากคนท้องถิ่น และยังปรากฎให้เห็นถึงสัญญาณเกี่ยวกับปัญหาด้านเงินทุน

อย่างไรก็ตาม สองประเทศได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับเมืองทวาย ที่ฝ่ายไทยเห็นชอบที่จะมอบความช่วยเหลือในหลายส่วน ซึ่งรวมทั้งด้านความปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่งสนับสนุน

นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของไทย ได้แถลงข่าว หลังหารือกับประธานาธิบดีเต็งเส่งว่า ทั้งสองประเทศจะจัดตั้งการติดต่อในระดับรัฐมนตรีเพื่อจัดการกับประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้อง และยืนยันว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะผลักดันความร่วมมือกับพม่า เกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

โครงการพัฒนาทวาย จะรวมพื้นที่อุตสาหกรรมขนาด 250 ตารางกิโลเมตร ที่ประกอบด้วย โรงงานเหล็ก โรงงานปิโตรเคมี และโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งผู้พัฒนาของไทยยืนยันว่า ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้

โครงการพัฒนาโครงการนี้ เป็นหนึ่งในหลายๆ โครงการที่ดำเนินการด้วยทุนต่างชาติ ซึ่งเริ่มขึ้นก่อนรัฐบาลทหารพม่าจะถ่ายโอนอำนาจเมื่อปีก่อนให้แก่รัฐบาลกึ่งพลเรือนที่ยังเต็มไปด้วยอดีตนายทหาร แต่ความสงสัยเกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือเพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลพม่าประกาศเมื่อต้นปีว่า ได้ยุติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 4,000 เมกะวัตต์ ที่มีแผนจะสร้างขึ้นที่ทวาย

ในวันอาทิตย์ (22) ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ได้เดินทางไปเยี่ยมชมท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังที่จะเชื่อมต่อถนนมุ่งไปยังทวาย ซึ่งจะช่วยย่นระยะเส้นทางเดินเรือที่ปัจจุบันต้องเดินทางอ้อมแหลมมลายู

ผู้นำของทั้งสองประเทศ ยังได้เห็นชอบที่จะเปิดด่านพรมแดนเพิ่มขึ้นใหม่อีก 3 จุด คือ ที่เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และกาญจนบุรี จากเดินที่มีอยู่แล้ว 3 จุด

ประธานาธิบดีเต็งเส่งเลื่อนการเดินทางเยือนไทยมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ในเดือน พ.ค. ซึ่งชนกับการเดินทางของอองซานซูจี ในการเข้าร่วมการประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออกในกรุงเทพฯ และเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของนางในรอบกว่า 2 ทศวรรษ

ผู้นำพม่าได้เลื่อนเดินทางอีกครั้งเมื่อต้นเดือน มิ.ย.