เอเอฟพี - นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ยุติเหตุนองเลือดในพื้นที่ภาคเหนือของพม่า ที่ทำลายภาพลักษณ์การปฏิรูปของรัฐบาลชุดใหม่
"การต่อสู้อย่างหนักยังคงดำเนินต่อไปในรัฐกะฉิ่น ในพื้นที่ห่างไกลทางภาคเหนือของประเทศ ไม่สอดคล้องกับความสำเร็จในการเจรจาตกลงหยุดยิงเช่นที่เกิดขึ้นกับกลุ่มอื่นๆ" นายบัน คี-มูน กล่าวกับสมาชิกสภาในการกล่าวปราศรัยครั้งสำคัญต่อสภาพม่า
"ชาวกะฉิ่นไม่ควรปฏิเสธโอกาสอีกต่อไป ซึ่งการหยุดยิงและข้อตกลงทางการเมืองนั้นนำมาซึ่งสันติภาพและการพัฒนา" นายบัน คี-มูน กล่าว
รัฐบาลกึ่งพลเรือนของพม่าได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มกบฎชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม ที่เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปหลายประการนับตั้งแต่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศในปีก่อน แต่ความรุนแรงในรัฐกะฉิ่นทวีมากขึ้นนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงนาน 17 ปี สิ้นสุดลงเมื่อปีก่อน
ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพย้ายที่อยู่เนื่องจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารของรัฐบาลกับกองกำลังของกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA)
แม้ว่าสหประชาชาติได้จัดส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ที่ยากจะเข้าถึงของรัฐกะฉิ่น แต่ผู้อพยพยจำนวนมากยังคงต้องการความช่วยเหลือและคาว่าในช่วงมรสุม สถานการณ์จะย่ำแย่ลง ซึ่งนายบัน คี-มูน ระบุว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติในรัฐกะฉิ่นจำเป็นต้องดำเนินอยู่ต่อไป
ทั้งนี้สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของพม่านับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2491 การยุติความขัดแย้งและการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นข้อเรียกร้องหลักของประชาคมโลก.