เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพม่า ระบุ วันนี้ (17 ม.ค.) ว่า ทางการพม่าสั่งการให้กองทัพทหารยุติการต่อสู้ทั้งหมดในพื้นที่ขัดแย้งชนกลุ่มน้อย แต่ยอมรับว่าคำสั่งบางครั้งยากที่จะดำเนินการตามได้
การนำสันติภาพไปสู่กบฎชนกลุ่มน้อยเป็นหนึ่งในการปฏิรูปของพม่า ประเทศที่ถูกปกครองโดยกองทัพทหารพม่ามาเป็นเวลานานกว่า 5 ทศวรรษ จนกระทั่งรัฐบาลพลเรือนชุดใหม่ขึ้นบริหารประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา
รัฐบาลได้ลงนามหยุดยิงกับกบฏชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยง เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ม.ค) ซึ่งเพิ่มความหวังที่ความขัดแย้งยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในโลกจะยุติลง
นายขิ่น ยี รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองและประชากรพม่า ระบุว่า หลังลงนามหยุดยิงหนึ่งวัน ประธานาธิบดีเต็งเส่งมีคำสั่งให้กองทัพยุติการโจมตีชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่มยกเว้นในกรณีป้องกันตนเอง
“คำสั่งดังกล่าวครอบคลุมทั่วประเทศ” นายขิ่น ยี กล่าว โดยนายขิ่น ยี เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ร่วมเป็นพยานในการลงนามหยุดยิงกับ KNU ด้วย
ทั้งนี้ คำสั่งของประธานาธิบดีที่มีออกมาก่อนหน้าเมื่อกลางเดือน ธ.ค.ให้ทหารหยุดโจมตีกลุ่มกบฏกะฉิ่น ในภาคเหนือของประเทศ กลับไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งกลุ่มกบฎระบุว่ายังคงมีการปะทะกันกับกองกำลังทหารในพื้นที่อยู่ และนายขิ่น ยี ยอมรับว่า การปะทะกันในบางพื้นที่จริง
“ยังมีหน่วยทหารเล็กๆ บางหน่วยที่อยู่ในระหว่างภารกิจลาดตระเวนอาจพบกับกลุ่มกบฎและยิงต่อสู้กัน บางครั้งคำสั่งหยุดโจมตีอาจไปไม่ถึงหน่วยทหารเล็กๆ เหล่านั้น” นายขิ่น ยี กล่าว และว่า กบฏกะฉิ่น ยังไม่ได้รับข้อเสนอเจรจาหยุดยิงของรัฐบาล
สงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นในพื้นที่ต่างๆ นับตั้งแต่พม่าได้รับอิสรภาพในปี 2491 รวมทั้งการกล่าวหาว่ากองกำลังทหารพม่าละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นข้อเรียกร้องหลักของประชาคมระหว่างประเทศที่ต้องการให้พม่าแก้ไขปัญหาเหล่านี้