เอเอฟพี - สื่อทางการพม่า ระบุ วันนี้ (20 ม.ค.) ว่า รัฐบาลพม่าและกบฏชนกลุ่มน้อยกะฉิ่นเห็นชอบที่จะจัดการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อยุติความขัดแย้งในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ
การเจรจาสร้างสันติภาพกับกลุ่มกบฏเป็นหนึ่งในการปฏิรูปหลายประการของรัฐบาลพลเรือนชุดใหม่ของพม่า ที่ขึ้นบริหารประเทศในปี 2554 ที่ผ่านมา แม้ว่าความไม่วางใจเกี่ยวกับความจริงใจของพวกเขาจะยังหลงเหลืออยู่ก็ตาม
หนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ รายงานว่า ผู้แทนจากรัฐบาลนำโดย นายออง ยี รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน และผู้แทนจากองค์กรกะฉิ่นอิสระ (KIO) ต่างเห็นชอบร่วมกันที่จะเจรจาเพิ่มเติม หลังหารือกันอยู่นาน 2 วัน
“รัฐบาลและ KIO จะดำเนินการเจรจาต่อผ่านแนวทางทางการเมือง” รายงานระบุ อ้างแถลงร่วมที่มีขึ้นหลังสิ้นสุดการหารือที่เมืองรุ่ยลี เมื่อวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.)
การต่อสู้อย่างดุเดือดในรัฐกะฉิ่น ทางเหนือของพม่า ระหว่างกองกำลังทหารของรัฐบาลและกองกำลังกะฉิ่นเพื่อเอกราช (KIA) นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2554 ทำให้ผู้คนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากพื้นที่
คำสั่งของประธานาธิบดีที่มีออกมาก่อนหน้าเมื่อกลางเดือน ธ.ค.ให้ทหารหยุดโจมตีกลุ่มกบฏกะฉิ่น ในภาคเหนือของประเทศ กลับไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งกลุ่มกบฎระบุว่ายังคงมีการปะทะกันกับกองกำลังทหารในพื้นที่อยู่
ด้าน นายขิ่น ยี รัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า รัฐบาลมีคำสั่งให้ทหารยุติการโจมตีในเขตพื้นที่ขัดแย้ง แต่ยอมรับว่าคำสั่งอาจปฏิบัติตามได้ยากในภาคสนาม
นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2554 รัฐบาลพม่าได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับกบฏรัฐชานและกะเหรี่ยงในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศแล้ว
สงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นในพื้นที่ต่างๆ นับตั้งแต่พม่าได้รับอิสรภาพในปี 2491 รวมทั้งการกล่าวหาว่ากองกำลังทหารพม่าละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นข้อเรียกร้องสำคัญของชาติตะวันตกที่ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ดำเนินการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการหารือกับนางอองซาน ซูจี การปล่อยตัวนักโทษการเมืองหลายร้อยคน.