เอเอฟพี - รัฐบาลพม่าและสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เริ่มเจรจาสันติภาพวันนี้ (12 ม.ค.) เพิ่มความหวังว่าจะมีการหยุดยิงเพื่อยุติการต่อสู้ที่ยืดเยื้อกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ ในความพยายามของรัฐบาลพม่าที่จะปฏิรูปประชาธิปไตยในประเทศ
คณะผู้แทนจากรัฐบาลพม่าและผู้บัญชาการกองกำลังทหารเข้าพบหารือกับสมาชิก KNU ระดับสูงเกือบ 20 คน ในเมืองปะอัน เมืองเอกของรัฐกะเหรี่ยง ทางตะวันออกของพม่า
“เราจะเริ่มต้นเจรจาไม่ว่าท้ายที่สุดจะสามารถลงนามข้อตกลงสันติภาพได้หรือไม่” นายหล่า หม่อง ฉ่วย (Hla Maung Shwe) ผู้เจรจาคนกลางและผู้ก่อตั้งกลุ่มประชาสังคมเมียนมาร์อีเกรส (Myanmar Egress) ที่เป็นผู้นำในการเจรจาครั้งนี้ กล่าว และว่า ผลสรุปจะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้
รัฐบาลพลเรือนชุดใหม่ของพม่าที่ขึ้นบริหารประเทศในเดือน มี.ค.2554 ได้พยายามที่จะเข้าถึงชนกลุ่มน้อยต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปที่มีเป้าหมายยุติการถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก
สงครามกลางเมืองที่ปะทุขึ้นในพื้นที่ต่างๆ นับตั้งแต่พม่าได้รับอิสรภาพในปี 2491 รวมทั้งการกล่าวหาว่ากองกำลังทหารพม่าละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นข้อเรียกร้องหลักของประชาคมระหว่างประเทศที่ต้องการให้พม่าแก้ไขปัญหาเหล่านี้
หนึ่งในผู้นำของ KNU ที่รู้จักในชื่อ พลตรี จอห์นนี่ ได้แสดงความคิดเห็นเชิงบวกต่อการเจรจากับรัฐบาลพม่าที่จะมีขึ้นนี้
“ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้เรียกร้องให้กองกำลังของเรายอมแพ้ แต่พวกเขาแค่ต้องการทำงานเพื่อสิทธิอันเท่าเทียมให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ และในเวลานี้เราเชื่อพวกเขา” พลตรี จอห์นนี่กล่าว แต่ก็เสริมว่า KNU ต่อสู้มานานกว่า 60 ปี และเพียงแค่การเจรจาหารือเพียงครั้งเดียวไม่ได้ทำให้การต่อสู้ยุติลง
ราษฎรจำนวนมากในรัฐกะเหรี่ยง ถูกบังคับให้ต้องหลบหนีและผู้คนนับหมื่นคนที่เป็นผู้ลี้ภัยต้องอาศัยอยู่ในค่ายตามแนวพรมแดนของไทย และบรรดากลุ่มคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า การปราบปรามกบฎของรัฐบาลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ชาวกะเหรี่ยงต้องทิ้งบ้านเรือนของตนเอง หมู่บ้านถูกทำลายและยังถูกบังคับให้ทำงานให้กับกองทัพ
ในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นและกองทัพรัฐชานใต้ ที่เป็นหนึ่งในกองกำลังกลุ่มกบฏสำคัญ ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง และในเวลาต่อมา รัฐบาลพม่ายังได้เจรจาหารือกับชนกลุ่มน้อยอีกหลายกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนและเรียกร้องสิทธิ รวมทั้ง KNU ด้วย
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปต่างเรียกร้องให้พม่าดำเนินการปฏิรูปประชาธิปไตยในประเทศอย่างต่อเนื่องและมากยิ่งขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยข้อเรียกร้องสำคัญ คือ การปล่อยตัวนักโทษการเมืองและการยุติความขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อย