เอเอฟพี - ในที่สุด ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา หรือ CSX (Cambodia Stock Exchange) เริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ในวันนี้ (18 เม.ย.) หลังเปิดตลาดอย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อ 9 เดือนก่อน โดยบริษัทด้านประปาเป็นบริษัทที่เข้าจดทะเบียนรายแรก
การซื้อขายเชิงสัญลักษณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 09.09 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่กัมพูชาถือว่าเลข 9 เป็นเลขมงคล และปิดการซื้อขายในเวลา 12.00 น. ส่วนเวลาซื้อขายปกติจะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 11.30 น.
กัมพูชาเปิดตลาดหลักทรัพย์อย่างยิ่งใหญ่ในเดือน ก.ค.2554 หลังจากเลื่อนมาหลายครั้งเพราะวิกฤตการเงินโลก และปัญหาด้านกฎระเบียบต่างๆ แต่ไม่มีบริษัทใดพร้อมจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลกัมพูชา และตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้
จนถึงตอนนี้ บริษัท Phnom Penh Water Supply Authority (PPWSA) ที่เดิมเคยเป็นของรัฐทั้งหมด ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดเพียงบริษัทเดียว และเสนอขายหุ้นทั้งหมด 13 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยเริ่มต้นที่หุ้นละ 6,300 เรียล (1.57 ดอลลาร์) ขณะที่หุ้นส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 85 รัฐเป็นผู้ถือครอง
การปิดตลาดซื้อขายในวันแรกนี้ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปเกือบร้อยละ 50 ที่ 9,300 เรียล (2.32 ดอลลาร์)
ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า การเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกของบริษัทเมื่อเดือนก่อน มีผู้ต้องการเข้าถือหุ้นมากกว่าจำนวนหุ้นที่มีอยู่ถึง 17 เท่า ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ความต้องการของนักลงทุนนั้นมีอยู่สูงมากสำหรับตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้
นายเกียต ชน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกัมพูชากล่าวยกย่องกับการจดทะเบียนครั้งประวัติศาสตร์ของ PPWSA ว่า เป็นการพัฒนาครั้งใหญ่สำหรับเศรษฐกิจของประเทศ
“ผมมีความต้องการที่จะเชิญชวนให้นักลงทุนในประเทศ และต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการซื้อขายหลักทรัพย์ และให้การสนับสนุนแก่ตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่งเริ่มต้นแต่เต็มไปด้วยศักยภาพแห่งนี้ และผมเชื่อมั่นอย่างมากว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในกัมพูชาจะประสบความสำเร็จ” นายเกียต ชน กล่าว
ส่วนรัฐวิสาหกิจอีกสองแห่ง คือ Telecom Cambodia และ Sihanoukville Autonomous Port คาดว่าจะเริ่มเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปในปลายปีนี้
ทั้งนี้ การซื้อขายจะต้องใช้เงินเรียล เงินสกุลท้องถิ่นเท่านั้น ตามเป้าหมายระยะยาวของรัฐบาลที่ต้องการจะลดการพึ่งพาเงินสกุลดอลลาร์ ที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุว่าเป็นสกุลเงินที่ครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 90 ของสกุลเงินทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในประเทศ แต่ในช่วง 3 ปีแรก อนุญาตให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถจ่ายเป็นเงินดอลลาร์ได้โดยทำความตกลง ตามที่คณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา หรือ SECC ระบุไว้
ขณะที่ยังเป็นประเทศหนึ่งที่ยากจนที่สุดในโลก กัมพูชาได้ก้าวพ้นจากหลายทศวรรษแห่งความขัดแย้ง ในฐานะเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาค รัฐบาลเปิดเผยตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2553 ที่ร้อยละ 5.9 ขณะที่ ADB ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2554 อยู่ที่ร้อยละ 6.8
เศรษฐกิจกัมพูชายังคงใช้จ่ายด้วยเงินสดเป็นหลัก การไม่ไว้วางใจ และเชื่อถือย่อมหมายถึงว่าประชาชนพากันเก็บเงินจำนวนมมากที่บ้านแทนที่จะฝากในธนาคาร.