ข้าวหอมเวียดนามหอมหวน ตีตลาดหอมมะลิไทยกระจุย

<bR><FONT color=#000033>ชาวนาใน จ.นีงบี่ง (Ninh Bình) ทางตอนใต้กรุงฮานอยกำลังขะมักเขม้นทำงานในที่นาผืนเล็ก ที่มีโรงงานผลิตปูนซีเมนต์เป็นฉากหลัง ในภาพวันที่ 23 ก.พ.2555 เวียดนามทะยานขึ้นเป็นประเทศส่งออกข้าวหอมเป็นครั้งแรก หลังจากรัฐบาลไทยใช้นโยบายสนับสนุนราคาและซื้อจากชาวนาในราคาแพง ซึ่งทำให้ข้าวหอมมะลิของไทยในตลาดโลกแพงขึ้นอย่างมากและทำให้ข้าวหอมเวียดนามมีราคาถูกกว่าถึง 30% ลูกค้าข้าวหอมมะลิของไทยเกือบทั้งหมดจึงไปหาข้าวหอมเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันยังมีไม่พอกับความต้องการของตลาด สื่อของทางการกล่าว. -- ภาพโดยวุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ผู้ซื้อจากหลายประเทศทั่วโลกหลายคณะได้เดินทางเข้าเวียดนามในช่วงต้นปีนี้ เพื่อขอซื้อข้าวหอม ในขณะที่จีน "ออร์เดอร์" จำนวนไม่อั้น ซึ่งทำให้เวียดนามกลายเป็นตลาดข้าวหอมของโลกโลก ทั้งหมดนี้ต้องขอขอบคุณนโยบายการสนับสนุนราคาข้าวของรัฐบาลไทย ที่ทำให้ข้าวหอมไทยราคาแพงลิ่ว สื่อของทางการเวียดนามกล่าว

สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดข้าวเวียดนามต้นปีนี้กลับเป็นว่า ลูกค้าจากทุกทิศทุกทางล้วนแสวงหาข้าวคุณภาพดีจากเวียดนาม ทั้งข้าวเจ้าชนิดเหนียวกับข้าวผสมเมล็ดหัก 5% โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอม ทั้งข้าวดอกมะลิและข้าว VD20 ซึ่งราคาแพงกว่าข้าวธรรมดาหนึ่งเท่าตัว ในขณะที่ข้าวชนิดธรรมดาราคาถูกกลับขายได้น้อย

สมาคมอาหารเวียดนาม (Vietnam Food Association) กำลังออกเก็บซื้อข้าวหอมในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง เพื่อสนองความต้องการของตลาด หนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนเตี๊ยบถิ (Sài Gòn Tiếp Thị) หรือ "ข่าวการตลาดไซ่ง่อน" รายงานอ้างการเปิดเผยของนายฟัมวันเบ๋ย (Phạm Văn Bảy) รองประธาน VietFood

ผู้ค้าข้าวจากฮ่องกงเพิ่งนำคณะเดินทางเข้าเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงเมื่อเร็วๆ นี้ เยี่ยมชมวิธีการปลูกและผลิตข้าวหอมของเวียดนามใน จ.อานซยาง (An Giang) และที่นครเกิ่นเทอ (Cần Thơ) ทุกคนยืนยันว่าข้าวหอมมะลิของไทยราคาแพงมากจนไม่สามารถจะซื้อเพื่อไปจำหน่ายได้

ในช่วงเดือน ม.ค.-กพ. ที่ผ่านมา บริษัทเวียดนามจำหน่ายข้าวหอมให้แก่บริษัทในฮ่องกงในราคา 600-700 ดอลลาร์ต่อตัน

สองเดือนแรกปีนี้เวียดนามส่งออกข้าวทุกชนิด 627,000 ตัน มูลค่ารวม 319 ล้านดอลลาร์ ในนั้นมีข้าวชนิดธรรมดาเพียง 6.45% เท่านั้น ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นข้าวหอม ข้าวเหนียวกับข้าวเปลือกต้มสุก โดยฮ่องกงกับจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันกล่าว

นายหวี่ง-มีง-เหวะ (Huỳnh Minh Huệ) เลขาธิการ VietFood กล่าวว่า ในขณะนี้จีนขอซื้อข้าวหอมถึง 2000,000 ตัน แต่เวียดนามยังไม่มีข้าวจะขายให้

เวียดนามไม่เคยอยู่ในกลุ่มประเทศส่งออกข้าวหอมมาก่อน จนกระทั่งเมื่อปีกลายนี้ และ โอกาสสำคัญมาถึงเมื่อรัฐบาลไทยใช้นโยบายสนับสนุนราคาข้าวทำให้ข้าวหอมของไทยไม่สามารถแข่งกับข้าวหอมเวียดนามได้

นโยบายของรัฐบาลไทยส่งผลให้ผู้ค้าทั้งจากจีน ฮ่องกง เกาหลี ยุโรป และอเมริกาใต้ ที่เคยนำเข้าข้าวหอมจากประเทศไทย หันไปหาข้าวหอมเวียดนามซึ่งราคาถูกกว่าข้าวไทยถึง 30% ไซ่ง่อนเตี๊ยบถิกล่าว

แต่ปัญหาก็คือข้าวหอมเวียดนามยังมีปริมาณไม่มาก การขยายเนื้อที่เพาะปลูกก็มีปัญหาสำคัญ ปัจจุบันเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงเนื้อที่นา 15%-20% เป็นพื้นที่ปลูกข้าวธรรมดา กับ 10%-15% ปลูกข้าวหอม พื้นที่ที่เหลือส่วนใหญ่ปลูกข้าวคุณภาพดี เพื่อผลิตเป็นข้ามผสมเมล็ดหัก 5%

สมาคมอาหารฯ ได้เสนอต่อกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทให้ขยายเนื้อที่ปลูกข้าวหอมเพื่อสนองความต้องการของตลาดโลก แต่ก็จะไปกระทบต่อข้าวคุณภาพดี กับข้าวธรรมดาซึ่งตลาดโลกมีความต้องการมากกว่า แม้ว่าปีนี้ความต้องการดูจะลดลงก็ตาม.