ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- คณะกรรมการแห่งชาติกำกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกแถลงในสุดสัปดาห์นี้ว่า ที่ผ่านมาได้ค้นพบการแพร่ระบาดของไวรัส H5N1 ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้หวัดนก ใน 21 อำเภอของ 11 จังหวัดทั่วประเทศ มีการสังหารสัตว์ปีกแล้วกว่า 34,000 ตัว มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน
นายกาวดึกฟ้าต (Cao Duc Phat) รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการแหงชาติชุดนี้ได้เปิดการประชุมหารือในวันเสาร์ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และ เปิดเผยตัวเลขดังกล่าว ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋
คณะกรรมการฯ ได้เรียกร้องให้กระทรวงการคลังช่วยสนับสนุนงบประมาณสำหรับนำเข้าวัคซีน H5N1-Re 5 สำหรับสัตว์ปีกอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันก็สั่งการให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วจำนวน 7 ทีม ที่จัดตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ให้รีบทำการสำรวจพื้นที่อื่นๆ ใน 48 จังหวัดและนครทั่วประเทศ เพื่อค้นหาการแพร่ระบาดต่อไป
สำหรับ 11 จังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ได้แก่ กว๋างนาม (Quang Nam) กว๋างจิ (Quang Tri) ห่าตี๋ง (Ha Tinh) แทงฮว้า (Thanh Hao) ในภาคกลาง จ.ถาย-งเวียน (Thai Nguyen) ห่านาม (Ha Nam) บั๊กซยาง (Bac Giang) และ นครฟายฝ่อง (Hai Phong) ในภาคเหนือ จ.หายซเวือง (Hai Duong) ในภาคใต้ และ จ.ซ๊อกจาง (Soc Trang) กับ จ.เกียนซยาง (Kien Giang) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง
ไวรัส H5N1 แพร่ระบาดในเวียดนามอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2546 และ นับวันเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้พบสายพันธุ์ย่อยออกมาตามลำดับ และ วัคซีน H5N5-Re 5 เริ่มใช้ไม่ได้ผลในบางท้องถิ่น สื่อของทางการรายงานอ้างคำพูดของนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแห่งกระทรวงสาธารณสุข
.
.
นับตั้งแต่ปี 21546 จนถึงปี 2554 มีผู้ป่วยด้วยไวรัส H5N1 รวม 121 ราย ในนั้น 61 คนหรือ 50% เสียชีวิต และในเดือน ม.ค.ปีนี้ พบผู้ป่วยอีก 2 ราย เสียชีวิตแล้วทั้งหมด
ไข้หวัดนกระบาดรุนแรงในเวียดนามในช่วงปี 2546-2550 และตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมาเริ่มปรากฏ "เครือย่อย" (Sub-clade) 2.3.4 ของไวรัสพันธุ์นี้ออกมา
จนกระทั่งปี 2552 ได้พบเครือย่อย 2.3.2 เป็นครั้งแรก และ ต่อมาเครือย่อยเหล่านี้ได้พัฒนาไปเป็นไวรัสกลุ่ม A และ B ซึ่งกลุ่มแรกมีความรุนแรงมากกว่ากลุ่มหลังถึง 3 เท่า เตื่อยแจ๋กล่าว
ปัจจุบันพบไวรัสในกลุ่ม A ในเกือบทุกท้องที่ที่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในขณะนี้ และพบกลุ่ม B ใน 8 จังหวัด
หลายปีมานี้ทั้งเวียดนามและจีนได้ใช้วัคซีน H5N1-Re 5 ฉีดให้สัตว์ปีก แต่วัคซีนชนิดนี้เริ่มไม่แรงพอสำหรับ H5N1 เครือย่อย 2.3.2
จีนซึ่งพบการแพร่ระบาดของเครือย่อย 2.3.2 เช่นเดียวกัน กำลังเร่งพัฒนาวัคซีนชนิดใหม่ แต่ตราบเท่าที่ยังไม่มีอะไรมากกว่านี้ ทั้งจีนและเวียดนามก็ยังจะต้องใช้ H5N1-Re 5 ต่อสู้กับไข้หวัดนกต่อไป เตื่อยแจ๋รายงานอ้างคำพูดของผู้เชี่ยวชาญ.